จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติดำเนินคดีอาญากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กรณีรู้อยู่แล้วว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส. แต่ยังใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง ผิดมาตรา 151 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561
หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2562 ให้สมาชิกภาพส.ส.ของนายธนาธร สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) จากกรณีถือหุ้นสื่อบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด อยู่ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันที่พรรคอนาคตใหม่ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.แบบบัญชีรายชื่อต่อกกต. โดยโทษตามมาตรา 151 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 11 มีนาคม นายธนาธร ได้ทวีตถึงกรณีนี้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ชัดเจนมากว่านี่คือความพยายามในการกำจัด #ธนาธร และอดีตกรรมการบริหารของ #อนาคตใหม่ ออกไปจากสารระบบทางการเมือง เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าระบบการเมืองไทยในปัจจุบันนั้นได้ “ล้มละลาย” ลงไปแล้ว ทั้งความชอบธรรม ที่มาของอำนาจ รวมถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ระบบการเมืองในปัจจุบันนี้ไม่สามารถตอบสนองต่อชีวิตความเป็นอยู่ และข้อเรียกร้องของประชาชนได้เลย แทนที่รัฐบาลจะเอาเวลาและทรัพยาการไปแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ การแพร่ระบาดของไวรัส #โควิด19 กลับเอาเวลาและทรัพยากรมาทำลายความเห็นต่างทางการเมือง
“ดังนั้น ‘ข้อเรียกร้อง’ ที่ให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นไม่เพียงพอ ข้อเรียกร้องของประชาชนจะต้องไปไกลกว่านั้น เราจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปศาลและกระบวนการยุติธรรม การปฏิรูปกองทัพ องค์กรอิสระ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60” นายธนาธร กล่าว