“นายกฯ” ยัน ทุกศูนย์ฯกักกัน พร้อมเปิดรับเมื่อจำเป็น บอกชื่นชมทุกเพจ ชี้ข้อมูลเป็นประโยชน์ แต่ปกป้องไม่ได้กรณีกล่าวอ้างชื่อบุคคลทำถูกฟ้อง
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ รพ.ราชวิถี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแพทย์ พยาบาล และคนไข้ ที่โรงพยาบาลราชวิถี ถึงกรณีประชาชนสับสนในเรื่องของข้อมูลโดยเฉพาะเรื่องการปิดศูนย์ควบคุมโรคเพื่อกักกันและติดตามดูอาการการติดเชื้อโควิด-19 ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) อาจจะกล่าวเร็วไปนิด คำว่าปิดหรือเปิดศูนย์ขอร้องว่าอย่าไปสนใจ ทุกศูนย์ยังมีชื่อเป็นศูนย์อยู่ทุกแห่ง ศูนย์ดังกล่าวถ้าไม่มีคนอยู่ก็เท่ากับศูนย์นั้นหยุด แต่ศูนย์เหล่านี้ต้องพร้อมรับสถานการณ์ หากมีความจำเป็นต้องสามารถเปิดได้ทันที ไม่ใช่ว่าจะปิดหายไปเลย ต้องมีความพร้อมที่จะรับสถานการณ์ต่อไป อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่คาดการณ์ไม่ได้ก็เป็นไปได้ ก็ต้องนำมาควบคุมที่ศูนย์ดังกล่าวอีก อย่าลืมว่าวันนี้มีคนเข้าออกผ่านด่านต่างๆหลายกลุ่ม แม้เราจะมีการตรวจตามท่าอากาศยานสนามบิน ท่าเรือ แต่ก็ยังมีอีกหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา หรือคนที่มาจากต่างประเทศไปเที่ยวแล้วยังไม่ได้กลับมาก็ต้องเจอมาตรการจัดการคัดกรอง แต่ถ้ามาจาก 4 ประเทศเสี่ยงต้องถูกควบคุมตัว 14 วันแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มาตรการยกเลิกชั่วคราวการตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (VISA on Arrival หรือ VOA) ชั่วคราวจะเริ่มได้เมื่อไหร่ นายกฯ กล่าวว่า ยกเลิกไปแล้ว และไม่ต้องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะเป็นกฎกระทรวง แต่ทั้งหมดต้องขออนุมัติมายังตนในฐานะผู้อำนวยการศูนย์การบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ที่ต้องรับทราบถ้าอนุมัติเห็นชอบก็ประกาศใช้ได้ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม
เมื่อถามว่าจะต้องมีการปรับการให้ข่าวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามว่า จะต้องปรับอะไร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสื่อไปถามทั่วไปหมด วันนี้ข้อมูลข่าวสารก็มี 2 จุด คือที่ทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ถือเป็นศูนย์ที่มีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจน แต่ก็มีส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ แต่ถ้าสื่อไปถามเปะปะซึ่งบางคนไม่เข้าใจ ขอร้องสื่อถามให้น้อยลงหน่อยและถามให้ถูกคน ถ้าข้อมูลไม่ตรงให้ถามมายังศูนย์ทั้ง 2 แห่ง ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีปัญหาระหว่างกรมกรมศุลกากรและกรมการค้าภายใน นายกฯ กล่าวว่า “อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน”
นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ ตามเพจต่างๆ ที่นำเสนอข้อมูลตนในฐานะนายกฯ ก็ขอชื่นชมเพจทุกเพจที่ทำประโยชน์โดยชี้ข้อสังเกตต่างๆ
“แต่สิ่งที่นายกฯป้องกันได้ไม่ได้ก็คือการที่ไปกล่าวอ้างชื่อ ถือเป็นสิทธิ์ของประชาชนทุกคนที่เขาจะฟ้องหรือไม่ฟ้องเป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่ว่านายกฯชมแล้วจะไม่ต้องฟ้อง มันไม่ใช่ เพียงแต่ว่าใครทำให้เกิดประโยชน์นายกฯก็ชมทั้งนั้น ทุกเพจ จึงขอให้ระมัดระวังการกล่าวอ้างชื่อบุคคล ชื่อหน่วยงานต่างๆ เพราะเขามีสิทธิ์ฟ้องตามกฏหมายก็ขอให้ระมัดระวัง สื่อก็เช่นกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
