‘ศิริกัญญา’ ชี้ วิกฤตศรัทธาเกิด แต่ทำอะไรไม่ได้ จวกรัฐเอื้อกลุ่มทุน ทำไทยเหลื่อมล้ำ

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. ร่วมกับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ หรือ สรส., สถาบันสังคมประชาธิปไตย และเครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตยเวทีจัดอภิปรายโต๊ะกลม Social Democracy Think Tank 2019 “วิกฤตความเหลื่อมล้ำของโครงสร้างเศรษฐกิจไทยในนโยบาย กฎหมายและรัฐธรรมนูญ 2560”

ในตอนหนึ่ง นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประธานกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า วิกฤติความเหลื่อมล้ำทุกวันนี้ เป็นผลมาจากนโยบาย กฎหมายและรัฐธรรมนูญหลายฉบับต่อเนื่องมา ซึ่งที่ผ่านมา พ.ร.บ.แข่งขันทางการ เป็นเหมือนเสือกระดาษ และแม้รัฐธรรมนูญบัญญัติเรื่องต่างๆไว้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะถูกนำมาบังคับใช้ แม้คดีในศาลรัฐธรรมนูญเองก็แทบมีคดีเกี่ยวกับความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

Advertisement

อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญ 2560 มีปัญหาอย่างมาก คือการการันตีสิทธิทางการเมืองและการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ไม่สามารถส่งมอบนโยบายให้กับประชาชนตามที่หาเสียงไว้ได้ แม้แต่นโยบายตามที่พรรคแกนนำรัฐบาลหาเสียงไว้จำนวนมาก มีใบประมาณรายจ่ายปี 2563 เพียง 3 เรื่อง สัดส่วนงบแค่ 2 % ของงบประมาณทั้งหมด

นางสาวศิริกัญญา ยังกล่าวถึง กฎหมายภาษีที่ดินฉบับใหม่ ที่ทำให้กลุ่มทุนและธุรกิจขนาดใหญ่ เสียภาษีน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.มากกว่า 3,000 แห่ง จะเก็บภาษีท้องที่เป็นรายได้ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาถึงเท่าตัว ส่วน พ.ร.บ.โรงงานฉบับใหม่ ที่ให้โรงงานที่มีขนาดเล็กกว่า 50 แรงม้าไม่ต้องขออนุญาตและไม่มีการหมดอายุของใบอนุญาตโรงงาน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนจำนวนมาก

Advertisement

ขณะที่กฎหมายเกี่ยวกับ EEC ให้อำนาจคณะกรรมการ EEC ที่มาจากการเเต่งตั้งอย่างมหาศาล เหมือนเป็นเขตปกครองพิเศษของ EEC และโครงการพิเศษอีกหลายโครงการที่เห็นชัดว่า รัฐบาลเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนใหญ่ที่มีมาตรการทางเศรษฐกิจหรือทำสิ่งที่ไม่ควรจะถูกกฎหมายให้ถูกกฎหมาย

ดังนั้น โครงสร้างทางกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและทางการเมืองที่เลื่อมล้ำ สุดท้ายก็วนกลับมาที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่เป็นการจัดสรรทรัพยากร หากผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจร่วมมือกับผู้มีอำนาจทางการเมืองอย่างแนบแน่น โดยใช้ทุกกลไกทำให้เกิดความชอบธรรมในการดำเนินนโยบายต่างๆที่ไม่ได้เป็นธรรม สุดท้ายจะนำมาสู่ความไม่พอใจระบบ ของประชาชนที่ไม่มีส่วนร่วมกำหนด อย่างที่เกิดขึ้นทุกวันนี้

นางสาวศิริกัญญา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันยังเกิดวิกฤตศรัทธา ที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นและสูญเสียความไว้วางใจรัฐบาล แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะยังมีรัฐธรรมนูญ ที่แม้มีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ก็อาจได้ขั้วอำนาจเดิมมาบนิหารประเทศ เนื่องจากมี ส.ว.แต่งตั้งที่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีด้วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะต้องมาการันตีความเท่าเทียม โดยเฉพาะสิทธิและโอกาสของประชาชน ซึ่งจะนำไปสู่ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจต่อไป

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image