‘สุวัจน์’ ชง 7 ข้อเสนอชพน.ถึงรบ. สู้วิกฤตโควิด-19 แนะปรับแผนใช้งบ อัดฉีดเงิน-ลดรายจ่ายปชช.

‘สุวัจน์’ ชง 7 ข้อเสนอพรรคชพน.ถึงรัฐบาล สู้วิกฤตโควิด-19 แนะปรับแผนใช้งบฯ 3.2 ล้านล. อัดฉีดเงิน-ลดรายจ่ายประชาชน

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ที่บ้านพัก ซอยราชวิถี 20 พรรคชาติพัฒนา(ชพน.) จัดประชุมคณะกรรมบริหารพรรค โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรค นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค นายดล เหตระกูล เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยในที่ประชุมได้จัดให้กรรมการบริหารพรรคนั่งห่างกัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วย ซึ่งภายหลังประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง นายสุวัจน์ แถลงข้อเสนอแนะของพรรคชาติพัฒนาต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ตามที่รัฐบาลได้ออก 6 มาตรการเพื่อยับยั่งการระบาดของไว้รัสโควิด 19 นั้น พรรต้องขอบคุณ และเป็นกำลังใจให้ผู้ที่ได้ทุ่มเทต่อการแก้ไขสถานการณ์ ทั้งทีมแพทย์อาวุโส คณะแพทย์ผู้พยาบาล และบุคลากรในโรงพยาบาลที่ได้ทุ่มเทการทำงานที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง รวมไปถึงขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนที่เสียสละให้ความร่วมมือกับมาตรการด้านสาธารณสุขของรัฐบาลด้วย

นายสุวัจน์ กล่าวต่อว่า พรรคเห็นด้วยกับ 6 มาตรการดังกล่าวของรัฐบาลอย่างยิ่ง แม้ขณะนี้จะมีแนวโน้มที่ดีในการพัฒนายารักษา และวัคซีน แต่สถานการณ์การยับยั้งการแพร่ระบาดยังไม่รู้ว่า จะสิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เพราะยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องยารักษาและวัคซีนรักษาโรค ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือร่วมมือในการปฏิบัติการหยุดยั่งการแพร่ระบาด โดยปฏิบัติตามคำแนะนำและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ขณะเดียวกัน รัฐบาลควรเร่งรัดจัดหาอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ รวมไปถึงชุดป้องกันโรค หน้ากาก ยาเวชภัณฑ์ต่างๆให้เพียงพอ โดยเฉพาะตัวยาที่ทางการแพทย์จีนรับรองสำหรับต้านไวรัส รวมถึงควบคุมด้านราคา เข้มงวดเรื่องการกักตุนสินค้า และที่สำคัญเพื่อลดความตื่นตระหนกของประชาชน ควรจัดบริการทางการแพทย์ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้กับบุคคลที่ต้องการตรวจหาเชื้อเพื่อสร้างความร่วมมือในการยับยั้นการระบาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งยังควรตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์เพื่อให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยาเพื่อบรรเทาความเครียดแก่ประชาชน

นายสุวัจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ พรรคยังมีข้อเสนอต่อมาตรการด้านการการเงินการคลังต่อรัฐบาลเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และเยียวยา ฟื้นฟูเศรษฐกิจสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ, ผู้ประกอบธุรกิจ และ ผู้ใช้แรงงาน ใน 7 ข้อ 1.สำหรับประชาชนทั่วไป ควรพิจารณาลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ประจำปี 2562 ที่เก็บอัตราก้าวหน้า 10-35% เป็น 5-35% และควรเลื่อนการชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปถึงเดือนกันยายน 2563 รวมถึงยกเว้นการหักภาษี ณ ที่จ่าย ของการจ้างแรงงานหรือรับจ้าง เพื่อเพิ่มรายได้และเสริมสภาพคล่องให้กับประชาชน 2.สำหรับธุรกิจขนาดกลางและขานเล็ก ควรเลื่อนการจ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล จากเดิมต้องชำระเดือนพฤษภาคม ไปเป็นเดือนสิงหาคม ขณะที่การจ่ายภาษีกลางปี กำหนดชำระเดือนสิงหาคม เลื่อนไปเดือนพฤศจิกายน และลดภาษีเงินได้บุคคลจาก 20% เหลือ 10% 3. ลดค่าครองชีพประชาชนด้วยลดการเก็บภาษีสินค้าและบริการ (VAT)จาก 7% เหลือ 5%

Advertisement

นายสุวัจน์ กล่าวว่า 4.ชะลอการบังคับใช้กฎหมายเพื่อการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไป 1 ปี 5.ขอความร่วมมือธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยและผ่อนผันชำระคืนเงินต้น ของประชาชนและธุรกิจขนาดเล็ก 6.ฟื้นโครงการเงินผัน โดยรัฐบาลจัดสรรเงินตรงไปสู่ชนบทเพื่อให้เกิดการจ้างงานในประชาชน ผ่านกองทุนหมู่บ้าน หรือกองทุนพัฒนาชุมชนเมือง และ 7.ปรับแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ปี 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ให้สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มติดลบ เพื่อนำเงินไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และปัญหาเฉพาะหน้าคือ โควิค-19 ขณะเดียวควรใช้โอกาสระหว่างจัดทำงบประมาณปี 2564 โดยปรับฐานและสมมติฐานทางเศรษฐกิจให้เหมาะสม ถูกต้องกับสถานการณ์ โดยพิจารณาจัดลำดับความสำคัญและความเหมาะสมของการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐด้วย เพื่อนำงบประมาณไปเพิ่มขีดความสามารถเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย อาทิ เรื่องอาหาร และการเกษตรที่จะมีความต้องการอย่างมากในตลาดโลก

“ผมเชื่อมั่นว่า รัฐบาลเดินมาถูกทางอยู่แล้ว ข้อเสนอของพรรคชาติพัฒนาเพื่อเป็นการช่วยเสริม ในฐานะที่มีประสบการณ์ทางด้านเศรษฐกิจ วันนี้บรรยากาศบ้านเมืองต้องมาก่อน ทุกภาคส่วน ทุกพรรคการเมือง หากมีข้อเสนอแนะดีๆต่อการแก้ไขปัญหาในช่วงวิกฤตที่เกิดขึ้น ผมเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะรับฟัง”นายสุวัจน์ กล่าว

Advertisement

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image