แนะตั้ง ‘บิ๊กป้อม’ เป็นผอ.ศอฉ.สู้โควิด-19 ชี้ เป็นพี่ใหญ่กองทัพ-มีบารมีตัวจริง

“เทพไท” แนะ “บิ๊กตู่” ตั้ง “บิ๊กป้อม” เป็นผอ.ศอฉ.สู้โควิด -19 เพราะเป็นผู้มีบารมีตัวจริง

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า ในวันที่ 26 มี.ค.จะมีผลการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอย่างเต็มรูปแบบแล้ว และรัฐบาลจะต้องปฏิบัติตามบทบัญญัติใน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแต่งตั้งคณะกรรมการศูนย์อำนวยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ตามมาตรา 6 ที่บัญญัติไว้ “ให้มีคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินคณะหนึ่ง ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ”

ซึ่งจากบทบัญญัติดังกล่าวนายกรัฐมนตรี อาจจะแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง หรือตัวนายกรัฐมนตรีสามารถที่จะเข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการ ศอฉ.ด้วยตนเองก็ได้ “ถ้าหากต้องการจะแบ่งความรับผิดชอบให้รองนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 6 ก็ควรจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพราะเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมกับตำแหน่งดังกล่าว เป็นพี่ใหญ่ของกองทัพ เป็นผู้จัดการรัฐบาล เป็นผู้มีบารมีตัวจริง มีประสบการณ์ในฐานะเคยเป็นกรรมการ ศอฉ.เมื่อปี 2553 มาก่อน สามารถทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี และทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ทั้ง 3 ท่านนี้ ก็เคยเป็นกรรมการ ศอฉ.มาก่อนทั้งสิ้น จึงไม่น่าเป็นห่วงสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการ ศอฉ.โควิด-19 ในครั้งนี้” นายเทพไทกล่าว

นายเทพไทกล่าวต่อว่า สถานการณ์ และเงื่อนไขของ ศอฉ.ครั้งนี้ อาจจะแตกต่างกันตรงที่ ศอฉ.เมื่อปี 2553 ที่มีหน้าที่ควบคุมสถานการณ์การชุมนุมทางการเมือง แต่ ศอฉ.ปี 2563 มีหน้าที่ควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค-19 ซึ่งบริบทของการบริหาร ศอฉ.อาจจะแตกต่างกัน ระหว่างเรื่องการเมืองกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความเห็นของประชาชน จะต้องไม่ปิดกั้น หรือลิดรอนสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงความเห็นทางการเมืองที่เห็นต่างกับรัฐบาล

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image