วันที่ 26 มีนาคม นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ขอแจ้งให้ทราบว่า วันพฤหัสบดีที่ 26 มี.ค. 63 ผมไม่สามารถไปร่วมตรวจสอบกรณีนายทวี ไกรคุปต์ บุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิชอบ บริเวณหมู่ที่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เนื่องจากรัฐบาลอ้างประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมโรคโควิด -19
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันอังคารที่ 17 มี.ค.63 ผมได้รับการแจ้งจากพนง.สส. บก.ปทส. ให้ไปร่วมตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน แต่ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้ศูนย์ราชบุรี และเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. กลับไม่ไปร่วมตรวจสอบในวันดังกล่าวด้วย วันนั้นผมต้องเสียเวลาไปทั้งวันโดยไม่เกิดประโยชน์ แถมยังโดนนายทวีกับลูกน้องบังอาจขับรถมาไล่บีบแตรใส่ภายในบริเวณพื้นที่ดินของรัฐที่ถูกนายทวีบุกรุกครอบครอง เมื่อแจ้งให้ตำรวจสวนผึ้งและตำรวจ ปทส. ทราบ ตำรวจทั้งสองหน่วยงานก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ นี่หากผมถูกไล่ยิง ไม่รู้ว่าตำรวจจะช่วยผมหรือช่วยคนไล่ยิง
ขอพูดตรงๆนะ เจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยงาน ควรประสานงานกันให้ชัดเจน นัดให้ตรงกันก่อน ผมเป็นผู้กล่าวโทษ ไม่ใช่ผู้ต้องหาที่จะให้พวกคุณเรียกไปพบวันใดก็ได้ ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ควรต้องให้ผม ซึ่งเป็นประชาชน เข้ามายุ่งด้วยเลย กรณีการบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐโดยนายทวี จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากบรรดาเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งหลาย ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เมื่อตรวจพบว่ามีการบุกรุกครอบครองโดยมิชอบ ก็รีบดำเนินคดีตามกฎหมายในทันที ไม่มีการละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ ความผิดเช่นนี้ก็จะเกิดขึ้นมาไม่ได้
แต่กับชาวบ้านตาสีตาสาที่ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน ไม่เห็นต้องให้ผมออกหน้าไปแจ้งความกล่าวโทษเลย พวกคุณเก่งกันนักจับได้จับดี จับแล้วยึดทุกอย่าง คดีถึงศาลอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่วัน ชาวบ้านถูกศาลลงโทษทุกรายไม่มียกเว้น แต่กับกรณีของทวีและปารีณา ไกรคุปต์ ทำไมมันถึงมีข้ออ้างต่างๆนานา ทำเหมือนไม่อยากให้คนทั้งสองต้องติดคุกเหมือนชาวบ้านทั่วๆไป
