ตร.ตั้ง359 ด่านทั่วประเทศ กทม.เพิ่ม 5 จุด เข้มถนนสำคัญ เตือนพกบัตรปชช.-แจงเหตุเดินทาง

ตร.ตั้งด่านสกัดโควิด -19 เข้ม เพิ่มกทม.อีก 5 จุด ถ.เพชรเกษม, บางนา-ตราด,ด่วนบูรพาวิถี,วิภาวดีฯ-โทลเวย์ ยัน จับปรับคนไม่สวมหน้ากาก 200 เฟกนิวส์ ชงดำเนินคดีมือปล่อยข่าวทันที

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงว่า การปฎิบัติงานของทหาร ตำรวจ สาธารณสุข ฝ่ายปกครองและท้องถิ่น ขนส่ง และจิตอาสา ที่จัดตั้งจุดคัดกรองหรือด่านตรวจทั่วประเทศ จำนวน 359 จุด ได้ทำงานอย่างเข้มข้นในเส้นทางผ่านเข้าออกกทม. 7 จุด และจะเพิ่มจุดตรวจอีก 5 จุด เริ่มในวันที่ 27 มีนาคมนี้ ประกอบด้วย ถนนเพชรเกษม ถนนบางนา- ตราด ด่วนบูรพาวิถี ถนนวิภาวดีรังสิต จากอนุสาวรีย์ฯไปอนุสรณ์สถาน และดอนเมืองโทลเวย์ โดยคาดว่า จะมีทางเข้าออกของจังหวัดอีกหลายแห่ง เมื่อครบ 24 ชั่งโมงแล้ว จะตรวจสอบเพื่อพิจารณาว่า จะต้องปรับจุดตรวจหรือไม่ ซึ่งในกทม. ตำรวจจะประสานกับผู้ว่าฯกทม. ขณะที่ในต่างจังหวัด ผบก.จังหวัดจะเป็นผู้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดในการกำหนดจุด

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวต่อว่า สำหรับการปฎิบัติตัวของประชาชนเมื่อผ่านจุดตรวจให้ทำตามคำแนะนำของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ตำรวจ ฝ่ายปกครองประจำที่ด่านตรวจ โดยตำรวจจะจัดระเบียบรถดูว่า บุคคลที่โดยสารในรถอยู่ในช่วงของการกักตัวหรือไม่ และภายในรถต้องเว้นระยะห่างของที่นั่ง ต้องสวมหน้ากากอนามัย และจะมีการบันทึกข้อมูลเดินทาง ส่วนสาธารณสุขจะวัดไข้เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยทุกจังหวัดและแต่ละเส้นทางจะประสานการทำงานเป็นเครือข่ายใยแมงมุม จึงขอประชาชนให้ความร่วมมือ เมื่อเจอจุดตรวจตามคำแนะนำ เช่น วัดอุณหภูมิร่างกาย สอบถามประวัติ และสวมหน้ากากอนามัย หากจะเดินทางให้พกบัตรประชาชนเพื่อแสดงตัว และหากไม่จำเป็นควรงดการเดินทางหากจะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า ส่วนสถานที่มีประกาศห้าม แต่พบว่ายังไปมั่วสุม เช่น อุทยาน สวนสาธารณะ จะเข้าไปตักเตือนก่อน หากไม่ฟังจะดำเนินการตามกฎหมาย ขณะที่กิจกรรมและประเพณีทางสังคมแนะนำให้ทำเท่าที่จำเป็น โดยขอความร่วมมือว่า อย่าซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเรื่องการขายหน้ากากอนามัย จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และศาลมีคำสั่งลงโทษโดยไม่รอลงอาญาแล้ว เชื่อว่าคนไทยอยากให้ผ่านไปโดยเร็ว จึงต้องช่วยกันเพื่อให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ การตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่เพื่อให้เป็นระเบียบ ประชาชนอาจไม่สะดวกบ้างแต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ส่วนที่มีกระแสข่าวส่งต่อทางโซเชียลว่าหากผ่านด่านตรวจแล้วไม่ใส่หน้ากากอนามัยจะถูกจับปรับ200 บาท นั้น เป็นข่าวปลอม ไม่จริงหาก และขอให้ส่งถึงเจ้าหน้าที่เพื่อให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากเป็นคนที่ต้องเข้ามาทำงานในกทม. จะต้องมีเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวว่า เราไม่ได้ห้ามเดินทาง แต่ขอให้พกบัตรประชาชนและบอกเหตุผลจำเป็นที่จะเดินทาง เช่น เจ้าหน้าขนส่งสินค้า เข้าเวรยาม ส่วนสื่อมวลชนที่ต้องไปทำงานสามารถทำได้ และหากใช้เวทีนี้ โดยให้แจ้งที่จุดตรวจเพื่อบันทึกข้อมูลไว้ แต่หากจะเดินทางเพื่อท่องเที่ยวขอให้อยู่บ้านดีกว่า

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image