‘อนุสรณ์’ เผย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหลือเวลาอีก 33 วัน จะทำอะไรให้รีบทำ จี้ใช้แก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพ

แฟ้มภาพ

‘อนุสรณ์’ เผย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหลือเวลาอีก 33 วัน จะทำอะไรให้รีบทำ จี้ใช้แก้ปัญหาให้มีประสิทธิภาพ

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มีคำสั่งให้ผู้รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องกับสนามมวยลุมพินีมาช่วยราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก ว่า สนามมวยลุมพินี ถือเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ของเมืองไทย เหมือนป้ามหาภัยอายุ 61 ปีที่แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในโบสถ์ เมืองแดกู (Daegu) ประเทศเกาหลีใต้ หวังว่าการดำเนินสอบสวนหาข้อเท็จจริงของกองทัพคงไม่หยุดอยู่เพียงแค่คำสั่งย้ายผู้รับผิดชอบและผู้เกี่ยวข้องมาช่วยราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบอย่างหนักทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม กองทัพบกต้องสอบสวนในเชิงลึกว่า มีกระบวนการหาประโยชน์บนความเป็นความตายของประเทศชาติและประชาชนหรือไม่ อย่างไร ไม่ควรปล่อยให้เวลาทอดยาวออกไปเรื่อยๆ ประชาชนจับตาดูอยู่ รวมถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ระบุ รู้แล้วว่าใครเกี่ยวข้องกับขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัย พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็มีอยู่ในมืออยู่แล้ว ถ้ามีข้อมูลจริงก็สามารถดำเนินการได้ทันที เพราะขณะนี้ปัญหาเรื่องหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ยังคงเป็นปัญหาสำหรับประชาชน รวมถึงแพทย์พยาบาลบุคลากรทางการสาธารณสุข ถ้ารู้แล้วว่าใครกักตุนหน้ากากอนามัย ต้องรีบดำเนินการโดยเร็ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรอ

“พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เหลือเวลาอีก 33 วัน จะทำอะไรให้รีบทำ และหากโชคดีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ลดลง รัฐต้องปรับแผนเพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมฟื้นกลับมาโดยเร็ว” นายอนุสรณ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image