ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส ในสถานการณ์การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน บทบาทของพรรคการเมือง บทบาทของนักการเมืองดำเนินไปอย่างไร
หยุดนิ่ง หรือ เคลื่อนไหว
ด้านหลัก อยู่ในภาวะหยุดนิ่ง ยอมรับต่อสภาพการณ์ ขณะเดียวกัน ด้านรอง ยังปรากฏการเคลื่อนไหว
แต่ในการเคลื่อนไหวก็มีความแตกต่าง
อย่างเช่นการเคลื่อนไหวของบางพรรคอันเกี่ยวกับภาวะ “แล้งเข็ญ” ขาดไร้ในสภาพแห่งการรุกเข้ามาของไวรัส
ไม่ว่าจะหน้ากากอนามัย ไม่ว่าจะไข่แพง
จึงเห็นการปะทะระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ จึงเห็นการปะทะภายในพรรคประชาธิปัตย์
นี่เป็นบทบาทอันไม่เป็นคุณในทางการเมือง
ท่ามกลางเสียงครหาในเรื่องความขาดแคลนหน้ากากอนามัย ความขาดแคลนเจลล้างเมือง และภาวะไข่ราคาแพงอย่างผิดปกติ
พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ยังแสดงบทบาท
ไม่ว่าจะผ่านกระบวนการของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่าจะผ่านกระบวนการ ก้าวไกล พาไทย พ้นวิกฤต
เป็นการเสนอแนะอย่างสร้างสรรค์ต่อ “รัฐบาล”
ความน่าสนใจอยู่ตรงที่เป็นการแสดงออกผ่านโซเชียล มีเดีย ด้วยการไลฟ์สด อย่างเป็นระบบและอย่างเป็นกระบวนการ
น่าตื่นตา น่าตื่นใจ
สะท้อนให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในห้วงแห่งการปิดสมัยประชุม แม้จะไม่สะดวกต่อการเคลื่อนไหวเพราะข้อจำกัดของสถานการณ์ แต่ก็ไม่ยอมจำนน
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคก้าวไกล
หากมองจากสภาพความเป็นจริงที่พรรคก้าวไกลคือความต่อเนื่องมาจากพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบก็จะสัมผัสได้ในลักษณะแห่งการสืบทอด
ที่สำคัญคือ การสืบทอดในทาง “ความคิด”
กระบวนการนำเสนอ ไม่ว่าจะมาจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ว่าจะมาจาก น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ไม่ว่าจะมาจาก นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เป็นต้น
ร้อยเชื่อมอย่างไร้รอยตะเข็บ
อาจเพราะคนของพรรคก้าวไกล คือคนของพรรคอนาคตใหม่ อาจเพราะพวกเขาล้วนเป็นเลือดใหม่ทางการเมือง
สัมพันธ์กับเทคโนโลยี “ใหม่” สัมพันธ์กับ “ความคิด” ใหม่
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นยังเป็นเส้นไหมแดงอันประสานจากจุดเด่นของพรรคอนาคตใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม คือ การไม่ยอมจำนน
ไม่ว่าในทาง “ความคิด” ไม่ว่าในทาง “การเมือง”
รูปธรรมแห่งการแสดงออก รูปธรรมแห่งการเคลื่อนไหวอันมาจากพรรคเพื่อไทย อันมาจากพรรคก้าวไกล ยืนยันกระบวนท่า “ใหม่” ในทางการเมือง
คือ การเมืองแห่งการไม่ยอมจำนน
คือ การเมืองแห่งการสร้างความหวัง และแปรนามธรรมในทางความคิดให้เข้าสู่รูปธรรมทางการปฏิบัติได้อย่างเหมาะกับเทศะและกาละ
พร้อมจะปักธง พร้อมจะเคลื่อนไหวอย่างมี “กัมมันตะ”