นายกฯ สั่งการกรมศุลกากร ยกเว้นภาษีนำเข้า หน้ากาก – เครื่องมือเวชภัณฑ์รักษาโควิด-19 พร้อมกำชับแจกจ่ายหน้ากากอนามัย ต้องถึงมือบุคคลากรทางการแพทย์ -ให้พาณิชย์เข้มงวดคุมราคาสินค้าไข่ไก่ตั้งแต่หน้าฟาร์ม
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีข้อสั่งการในที่ประชุมครม. ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำหนังสือรวบรวมมาตรการในการป้องกัน รักษาและบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ประกอบด้วย กระทรวงการคลังรวบรวมมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 และกระทรวงวัฒนธรรมจัดทำจดหมายเหตุเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั่วโลกและในประเทศไทย พร้อมสั่งการให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ยกเว้นภาษีอากรนำเข้า หน้ากากอนามัย เครื่องมือทางการแพทย์ อุปกรณ์ชุดตรวจหาไวรัสโควิด – 19 และยาเวชภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการใช้รักษาเชื้อไวรัสโควิด – 19 และสั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งกระบวนการตรวจเพื่อรับรองมาตรฐานให้สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาใช้เวลาดำเนินการภายใน 1 วัน และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ใช้เวลาดำเนินการภายใน 4 วัน รวมถึงให้กระทรวงพาณิชย์เข้มงวดในการคุมราคาสินค้าไข่ไก่ ตั้งแต่หน้าฟาร์มและพ่อค้าคนกลางมากกว่าการค้าปลีกรวมถึงให้งดการส่งออกไข่ไก่ไปต่างประเทศในระยะนี้
นางนฤมล กล่าวต่อว่า สำหรับการเดินทางสัญจร นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพภาคที่ 4 กระทรวงมหาดไทย ปิดการเดินทางเข้าออกจังหวัดภูเก็ตทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ รวมทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสั่งการให้เฝ้าระวังกิจกรรมที่มีลักษณะการรวมกลุ่มทุกกิจกรรม โดยมอบหมายให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เข้มงวดในการออกอากาศรายการมวยทางโทรทัศน์ สั่งการให้สํานักงานตํารวจแห่งชาติเข้มงวดในการควบคุมผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์ สวมใส่หน้ากากอนามัย ปฎิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข
นางนฤมล กล่าวต่ออีกว่า รวมทั้งให้จับกุมการลักลอบการเล่นพนัน การสังสรรค์อย่างผิดกฎหมายและฝ่าฝืนแข่งรถ พร้อมกำชับแผนการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยต่อวันในช่วง 5 วันนี้เป็นการชั่วคราว จากจำนวนการผลิตหน้ากากอนามัยที่กระทรวงพาณิชย์สามารถจัดหาได้ 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน จากการผลิตทั้ง 11 บริษัท ให้จัดสรรให้กระทรวงมหาดไทย 8 แสนชิ้น และกระทรวงสาธารณสุข 1.5 ล้านชิ้น โดยให้กระทรวงมหาดไทยแจกจ่ายผ่านบริษัทไปรษณีย์ไทยไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพื่อกระจายไปยังผู้ปฏิบัติงานทั้งอาสาสมัครสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร และผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ในส่วนกระทรวงสาธารณสุขจะทำการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยจำนวน 1.5 ล้านชิ้น ผ่านบริษัทไปรษณีย์ไทยไปยังสถานพยาบาลในกรุงเทพมหานคร และสถานพยาบาลใน 76 จังหวัด เพื่อนำไปให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ ที่สังกัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชน รวมทั้งจะมีทั้งส่วนของนักศึกษาแพทย์ และนักศึกษาพยาบาล ที่เตรียมพร้อมจะช่วยเหลือเพิ่มเติม อีกด้วย