09.00 INDEX สถาปนา ความคิด แห่งชาติ ก่อนมี “รัฐบาลแห่งชาติ”ขึ้น
วาทกรรมที่ว่าอย่าเอากรณี “ไวรัส” แพร่ระบาดมาเป็นประเด็นทาง “การเมือง” มีความละเอียดอ่อนเป็นอย่างยิ่งในท่ามกลางการแพร่ ระบาดของ “ไวรัส”
เหมือนกับที่เปิดเผยจะเป็นปัญหาในทางการเมืองแต่ก็ต้อง ยอมรับว่าเป็นการเมืองเนื่องแต่กระบวนการบริหารจัดการ
เพราะในสภาพความเป็นจริงมิได้สะท้อนให้เห็นเพียงความ ขัดแย้งระหว่างรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล กับ ฝ่ายค้าน พรรคร่วม ฝ่ายค้าน
หากพิจารณาลงไปในรายละเอียดก็จะสัมผัสได้ในปัญหาที่มี ลักษณะเป็นทั้งนามธรรมและรูปธรรม นั่นก็คือ ในทางความคิดใน ทางการปฏิบัติ
นี่คือปัญหาในทางธรรมชาติของทุกสังคมในโลกนี้
ถามว่าสังคมจะตั้งข้อสงสัยต่อปมในเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัส ว่ามีจุดเริ่มต้นมาอย่างไรได้หรือไม่ ถามว่าสังคมจะตั้งข้อสงสัยต่อกรณีของสนามมวยลุมพินีอันเป็นจุดแพร่กระจายได้หรือไม่
หากทันทีที่มีการตั้งข้อสังเกตก็ถูกทุบว่าอย่าทำให้เป็นเรื่องในทางการเมืองเสียแล้วก็น่าสงสัยในวิธีวิทยาทางความคิด
กลายเป็นว่าหากหวังดีต้องไม่วิพากษ์วิจารณ์กระนั้นหรือ
หากไม่มีการวิพากษ์วิจารณ์หรือตั้งข้อสังเกตการสืบสาวในเรื่องสภาวะขาดแคลน “หน้ากากอนามัย” อันเป็นเรื่องน่าอับอายยิ่งในกระบวนการบริหารจัดการจะปรากฏได้อย่างไร
หากไม่มีบทบาทของประชาคมสาธารณสุขอย่างเพจก้อสซิปสาสุข อย่างเพจแพทย์เวร สังคมจะรู้ได้อย่างไรว่าปัญหาส่วนหนึ่ง มาจากภายในประชาคมสาธารณสุขเอง
นี่คือลักษณะประชาธิปไตยอันดำรงอยู่ภายในวิกฤตที่เกิดขึ้น
ทุกอย่างต้องดำเนินไปเหมือนกับข้อสังเกตไม่ว่าจะมาจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่าจะมาจากคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่าจะมาจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
นั่นก็คือ ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสมิได้เป็นเรื่องเฉพาะ ของคนใดคนหนึ่ง
หากแต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของสังคม
แม้ไม่สามารถจัดตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” ขึ้นได้ในทางเป็นจริงแต่ก็ควรมี “ข้อเสนอร่วม” อันสะท้อน “ความคิดแห่งชาติ” ขึ้นได้
หากละทิ้ง “อคติ” และนิยาม “ความเป็นชาติ” อย่างเดียวกัน