บิ๊กป๊อก สั่งผู้ว่าฯทั่วประเทศ พร้อมรับประชามติ ซัดคนทำจม.ปลอม เจตนาไม่ดี

“บิ๊กป๊อก” กำชับผวจ.ทั่วประเทศ เตรียมพร้อมการทำประชามติ ซัดคนทำจม.ปลอม เจตนาไม่ดี

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย ปี 2559 (ไตรมาสที่ 4) ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ถึงการเตรียมความพร้อมการออกเสียงประชามติ ร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ตนจะชี้แจงถึงหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยที่สนับสนุนการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และจะใช้เวลาที่เหลืออยู่จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพอย่างไร พร้อมสอบถามการจัดทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง และหน่วยลงคะแนนว่ามีปัญหาหรือไม่ สำหรับการรักษาความสงบเรียบร้อยเราก็จะเน้นเรื่องการหาเบาะแสถึงการเอกสารบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญด้วย ขณะเดียวกันตนได้กำชับการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้วางตัวเป็นกลาง โดยเฉพาะวิทยากรทุกระดับ ที่ต้องให้ความรู้ความเข้าใจกับประชาชน รวมถึงเจ้าหน้าที่ศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อยสนับสนุนการดำเนินงานตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 จะต้องไม่แสดงเอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อให้ประชาชนใช้วิจารณญาณตัดสินไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ผลจะต้องไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ

เมื่อถามว่า การพบจดหมายบิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และลำปาง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตนได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายทหาร ตำรวจ ในการหาเบาะแส เพราะอยากให้หาผู้กระทำผิดให้ได้ โดยเชื่อว่าน่าจะมีเบาะแสในการแจกจ่ายเอกสารดังกล่าว ซึ่งการหารายชื่อ บ้านเลขที่ ของบุคคล ไม่ใช่เรื่องง่าย และเชื่อว่า น่าจะมีเบาะแสของผู้ที่ดำเนินการเรื่องนี้ได้

เมื่อถามต่ออีกว่าการที่ซองจดหมายมีตราครุฑ จะสอบสวนถึงข้าราชการหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องไปหาว่า ผู้ที่กระทำเรื่องนี้ว่าเป็นใคร เพราะตราครุฑที่ปรากฎ ตนเชื่อว่าผู้กระทำความผิดมีกระบวนการคิดหลายชั้น และประสงค์ร้าย คงไม่มีใครนำชื่อของตัวเองไปไว้บนซองจดหมายและตนขอชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ที่ประสานความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีความพอใจ

Advertisement

“ส่วนช่วงโค้งสุดท้ายการออกเสียงประชามติ เรามีงานด้านการข่าวดูแล โดยใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทย หากมีเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จำเป็นจะต้องรับทราบและสามารถอธิบายได้ หากไม่สามารถอธิบายได้ว่าในพื้นที่เกิดอะไรขึ้น ก็ต้องมีการพิจารณา ทั้งนี้ไม่มีการกำชับพื้นที่ใดเป็นพิเศษ เพราะหากกำชับพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง อาจถูกมองว่าเป็นพื้นที่มีปัญหา” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image