ศบค.ชี้ คนไทย 1.4 หมื่น จ่อกลับประเทศ รับได้แค่ 200/วัน วอนคนไม่เดือดร้อนอยู่ต่อไปก่อน

โฆษก ศบค.เผย กต.รายงานมีคนไทยใน ตปท. ต้องการกลับทางเครื่องบิน 5,423 คน ชี้สามารถรองรับได้วันละ 200 คน ขอความร่วมมือคนไทยไม่เดือดร้อนอยู่ต่างประเทศไปก่อน ส่วนใครเดือดร้อนรัฐพร้อมพิจารณางบช่วยเหลือค่าใช้จ่าย ขณะที่พื้นที่กักตัว กลาโหมเตรียมไว้ 2,037 ห้อง มท. 460 แห่ง ขณะที่ รพ.สนาม ยังขาดไอซียู ต้องหาเพิ่มอีก 80 เตียง ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ เข้ามาแล้ว 187,000 เม็ด

เมื่อวันที่ 9 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึงผลการหารือในที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ว่า สำหรับมาตรการการเดินทางเข้าออกประเทศของคนไทย ทางกระทรวงการต่างประเทศได้รายงานว่ามีคนไทยรอกลับเข้าประเทศทางเครื่องบิน 5,453 คน รวมทั้งที่บริเวณด่านมาเลเซียอีกประมาณหมื่นคน โดยมีคนไทยลงทะเบียนรวม 14,664 คน และเข้ามาแล้ว 12,771 คน วันนี้ก็จะมาบ้างจนถึงวันที่ 18 เมษายน ทั้งนี้ สิ่งที่ท่านนายกรัฐมนตรีถามถึงคือก่อนเข้ามาต้องทำอย่างไร เข้ามาแล้วต้องทำอย่างไร ซึ่งที่ประชุมหารือว่าเตรียมการรองรับการกักตัวนั้นสามารถรองรับได้ประมาณ 200 คนต่อวัน ถ้าจะกลับเข้าประเทศเรายินดีต้อนรับทุกคน แต่ถ้าเห็นคิวยาว ผู้ที่ไม่เดือดร้อนสามารถขออยู่ที่ประเทศดังกล่าวไปก่อนได้ แต่สำหรับคนที่เดือดร้อนทางรัฐกำลังพิจารณาเรื่องงบประมาณให้เหมือนกับเงิน 5,000 บาท ที่รัฐแจกให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในประเทศไทย โดยขณะนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง อยู่ระหว่างการพิจารณา

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ส่วนใครที่ต้องการกลับเข้ามาประเทศนั้น ต้องดำเนินการตามลำดับขั้นตอนที่กำหนดไว้ เพราะเราต้องดูแลคนไทยที่อยู่ในประเทศอีก 65 ล้านคนด้วย ขณะเดียวกันที่ประชุมได้มีการพูดถึง Rapid test และชื่นชมประเทศอินโดนีเซีย ที่มีการ Rapid test ก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ช่วยคัดกรองคนไปได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และความมั่นคง ต้องมานั่งคุยกันเพื่อหามาตรการที่ดีที่สุด ยืนยันว่า เราหาทางช่วยเหลือคนไทยที่จะกลับเข้ามา หรือใครที่ไม่สบายหรือมีความจำเป็นจริงๆ มีการคุยกันว่าหากต้องหาเครื่องบินไปรับกลับมารัฐบาลพร้อมช่วยเหลือและดูแลเต็มที่ เท่าที่รับทราบตัวเลขคนไทยที่อยู่ต่างประเทศเบื้องต้นมีประมาณ 1.6 ล้านคน ซึ่งถือว่าเยอะมาก เราพยายามดูแลทั้งหมด

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ส่วนการเตรียมความพร้อมของพื้นที่รองรับ State Quarantine ทางกระทรวงกลาโหมรายงานว่า มีทั้งหมด 2,037 ห้อง หากต้องพักคนละ 1 ห้องนั้น อาจจะไม่พอ จะต้องหาเพิ่มเติมอีก 1,500 ห้อง ส่วนกระทรวงมหาดไทย 460 แห่ง พักได้ ประมาณ 13,000 คน โดยของกระทรวงมหาดไทย จะเป็น Local Quarantine ซึ่งอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ส่วนโรงพยาบาลสนามนั้น ทางนายกฯก็ได้ซักถามในประเด็นนี้ และมีการรายงานว่า ขณะนี้มีโรงพยาบาลสนาม 98 แห่งในกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ยังขาดไอซียู ซึ่งต้องเพิ่มอีกอย่างน้อย 80 เตียง เพื่อรองรับกรณีร้ายแรงที่สุด ขณะเดียวกันนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้พูดถึงค่าใช้จ่ายในการรักษา โดยมติ ครม.ระบุว่ารัฐจะเป็นต้องผู้ดูแลทั้งหมด ซึ่งต้องไปดูกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้ประชาชนได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด

Advertisement

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ส่วนยาฟาวิพิราเวียร์ ขณะนี้สั่งซื้อยาและเข้ามาแล้ว ล่าสุด 187,000 เม็ด ใช้ไปแล้วกว่า 47,000 เม็ด เหลือประมาณ 140,000 เม็ด สำหรับเรื่องหน้ากาก N95 นั้น โดยวันนี้จะได้เพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 200,000 ชิ้น นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยวิธีการทำความสะอาดหน้ากาก N95 ด้วยวิธีการอบความร้อนเพื่อให้ใช้ซ้ำได้ถึง 4 ครั้งด้วย ช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image