“มหาดไทย” ย้ำผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด เรื่องการ นำผู้ที่เดินทางเข้าในราชอาณาจักรเข้าสู่กระบวนการกักไว้เพื่อสังเกตอาการ
เมื่อวันที่ 9 เมษายน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด โดยเน้นย้ำให้จังหวัดนำผู้ที่เดินทางเข้าในราชอาณาจักรเข้าสู่กระบวนการกักไว้เพื่อสังเกตอาการ (Local Quarantine) ในสถานที่ที่จัดเตรียมไว้อย่างเคร่งครัด ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การปฏิบัติของจังหวัดเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และให้เกิดประสิทธิภาพ จึงขอชักซ้อมและกำหนดแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการตามมาตรการคัดกรอง แยกกัก
กักกัน ของผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบกในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กระทรวงมหาดไทย ดังนี้ 1.สถานที่กักกันตัว (Local Quarantine) ให้จังหวัดยืนยันข้อมูลสถานที่ที่จังหวัดพิจารณา
เห็นสมควรใช้เป็นสถานที่กักกันตามที่ได้เคยรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบแล้ว ทั้งนี้ ขอให้รายงานโดยระบุชื่อสถานที่ที่ชัดเจน (เช่น อาคาร โรงพยาบาล โรงแรมเป็นต้น) พร้อมภาพถ่ายสถานที่ละ 2 รูป (ภายนอกอาคาร และภายในห้องพัก) โดยให้รายงานพร้อมภาพถ่าย ทาง LNE เท่านั้น (LNE ID : MOICOVID) โดยในการพิจารณาสถานที่ขอให้ยืนยันร่วมกับฝ่ายสาธารณสุข ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถใช้เงินทดรองราชการในเชิงป้องกันและยับยั้งภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉินของจังหวัด ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.2562 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ กรณีการเช่าอาคารของภาคเอกชน เช่น โรงแรม หรือสถานที่อื่น หรือปรับปรุงสถานที่เพื่อใช้เป็นที่กักกัน หรือโรงพยาบาลสนาม หรืออาคารอื่นเพื่อรองรับภารกิจในการดูแลประชาชน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หากวงเงินทดรองราชการที่มีอยู่ไม่เพียงพอ ให้จังหวัดเสนอเรื่องขอขยายวงเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันและยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของจังหวัดไปยังกระทรวงมหาดไทยทันที
หนังสือระบุอีกว่า 2.การกักกันตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้จังหวัดต้นทางที่มีผู้เดินทางเข้ามาในราชาณาจักรทั้งทางอากาศ และทางบก ให้ดำเนินการตามกระบวนการกักกันตัวเพื่อสังกตอาการในสถานที่กักกันตัว (Local Quarantine) โดยเคร่งครัด โดยไม่ให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรกลับไปกักกันตัวที่บ้าน หากมีจำนวนผู้ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการกักกันมากเกินความสามารถในการดำเนินการของจังหวัดต้นทางให้ดำเนินการ ดังนี้ 2.1ให้จังหวัดต้นทางจัดทำบัญชีรายชื่อผู้ที่จะต้องเข้ากระบวนการกักกันตัว ส่งให้กระทรวงมหาดไทย ตามโทรสารในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนที่สุด ที่ มท 0230/ว 1982 ลงวันที่ 1 เมษายน 2563 และส่งจังหวัดปลายทางทราบล่วงหน้า และเมื่อได้รับแจ้งสถานที่กักกันตัวจากจังหวัด ปลายทางแล้ว ให้จังหวัดต้นทางดำเนินการส่งตัวไปกักกันตัวยังสถานที่ที่ได้รับแจ้ง ณ จังหวัดปลายทาง โดยให้ จัดทำเอกสารการรับส่งตัวไว้ยืนยันร่วมกัน 2.2 สำหรับจังหวัดปลายทางเมื่อได้รับแจ้งบัญชีรายชื่อจากจังหวัดต้นทาง ให้แจ้งสถานที่ กักกันตัวที่ได้จัดเตรียมไว้ และเมื่อผู้ต้องเข้ารับการกักกันตัวมาถึงให้จัดคนที่ต้องเข้ารับการกักกันตัวเข้าพัก ณ สถานที่ที่จังหวัดจัดเตรียมไว้ โดยต้องระบุว่า ผู้ใดเข้าพัก ณ สถานที่ใด ให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้ และให้แจ้งการจัดคนเข้าสถานที่ดังกล่าวให้กระทรวงมหาดไทย และจังหวัดต้นทางทราบ 3.ผู้ที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย ให้จังหวัดที่มีผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
โดยมิชอบด้วยกฎหมายแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารและตำรวจในพื้นที่ ดำเนินการตามกฎหมาย และเมื่อดำเนินการตามกฎหมายแล้ว หากเป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยห้ามมิให้ปล่อยตัวกลับภูมิลำเนา ให้ดำเนินการตามกระบวนการกักกันตัวในสถานที่ที่จังหวัดจัดเตรียมไว้ ตามข้อ 2 และ 4.สามารถดาวน์โหลดแบบรายงานยืนยันสถานที่กักกันตัว (Local Quarantine) และแบบรายงานการเคลื่อนย้ายผู้กักกันตัว ได้ทางเว็บไซต์ ww.ppb.moigo.h ห้วข้อ “หนังสือแจ้งวียน/ประชาสัมพันธ์” และขอให้จังหวัดรายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบ ทาง LINE (LINE ID : MOICOVID) เท่านั้น ดังนี้ 4.1แบบรายงานยืนยันสถานที่กักกันตัว (Local Quarantine) ให้กระทรวงมหาดไทยทราบภายในวันที่ 9 เมษายน 2563 เวลา 06.30 น. 4.2แบบรายงานการเคลื่อนย้ายผู้กักกันตัว รายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบทันทีเมื่อมีการเคลื่อนย้ายผู้กักกันตัว