เมื่อวันที่ 11 เมษายน นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวถึง การขอความร่วมมือของรัฐบาลในการงดจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ในปีนี้ว่า ส่วนตัวสนับสนุนแนวความคิดการจัดกิจกรรมวันสงกรานต์ ตามประกาศของกระทรวงวัฒนธรรม และตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ขอความร่วมมือไว้ และเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็พร้อมให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะเห็นความสำคัญถึงแนวทางการป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ หากประชาชนไม่ปฎิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตามประเพณีวันสงกรานต์ วันผู้สูงอายุ วันครอบครัว ปกติจะมีการรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุ เพื่อแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวทีของลูกหลาน ตามวัฒนธรรมประเพณีที่ยึดถือปฎิบัติมาเป็นเวลาช้านาน แต่อาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมให้สอดคล้อง กับสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปีนี้ เช่น สรงน้ำพระพุทธรูปเฉพาะที่บ้าน ไม่ไปสรงน้ำพระหรือร่วมกิจกรรมที่วัด ส่วนผู้สูงอายุหรือบุพการี อาจจะใช้รูปแบบอื่นที่เห็นว่าเหมาะสม เช่น อวยพรผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ส่งคลิปอวยพร อวยพรทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ส่งคำอวยพรผ่านเฟสบุ๊ก หรือส่งไอจีอวยพรกัน ตามยุคสมัยปัจจุบัน
นายเทพไท กล่าวต่อว่า ในฐานะ ส.ส.คนหนึ่ง เป็นประจำทุกปี จะต้องร่วมกิจกรรมประเพณีสงกรานต์กับชาวบ้าน และมอบของที่ระลึกให้กับผู้สูงอายุ เช่น เสื้อผ้า ผ้าถุง ผ้าขาวม้า ขันน้ำ แก้วน้ำ ฯลฯแต่สำหรับปีนี้ มีข้อจำกัดในการเข้าร่วมกิจกรรม ไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมด้วยตัวเองได้ ก็จะมอบให้ผู้ช่วย ส.ส.ในแต่ละอำเภอ แกนนำของพรรคแต่ละตำบล หรือหมู่บ้าน ได้นำสเปรย์แอลกอฮอล์ 75% และหน้ากากอนามัย ยาสามัญประจำบ้าน นำไปมอบเป็นของขวัญให้แก่ผู้สูงอายุ และจากการลงพื้นที่พบข้อเท็จจริงว่า หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ในพื้นที่ชนบท ยังมีความขาดแคลน และราคาแพงกว่าปกติ แม้การออกโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทศไทย(ทรท.)ของพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ยืนยันว่า หน้ากากอนามัยสำหรับบุคลากรทางการแพทย์มีความเพียงพอ และหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนรัฐบาลได้ผลิตจำนวน 50 ล้านชิ้นครบตามเป้าหมายแล้วก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น ในความเป็นจริงพี่น้องประชาชนในชนบทยังขาดแคลนอยู่ การที่รัฐบาลมอบหมายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดทำเพื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ ก็ยังไม่ทั่วถึงและครบทุกครัวเรือน ในบางพื้นที่ยังต้องใช้หน้ากากอนามัยของ ส.ส.หรือหน่วยงานอื่นๆที่เข้าไปช่วยเติมเต็มให้กับพี่น้องประชาชนอีกด้วย
“จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลใช้กลไกของรัฐ เข้าไปดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนในชนบทให้มากกว่านี้ เพราะคนในชนบทห่างไกลข้อมูลข่าวสาร ห่างไกลความเจริญ และห่างไกลศูนย์กลางอำนาจรัฐ เป็นพื้นที่ด้อยโอกาส ที่รัฐบาลต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษมากกว่านี้”นายเทพไท กล่าว