ส่องชีวิต ส.ส. ฝ่า ‘วิกฤตโควิด’ หนักกว่าเลือกตั้ง

ส่องชีวิต ส.ส. ฝ่า ‘วิกฤตโควิด’ หนักกว่าเลือกตั้ง

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 สร้างผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วประเทศ

เกิดเสียงเรียกร้องขอให้นักการเมือง ส.ส. และ ส.ว.สละเงินเดือนมาสมทบช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างสาหัสอยู่ในขณะนี้

แต่สำหรับ ส.ส.ที่ยึดโยงอยู่กับประชาชน เงินเดือนหมดไปกับภาษีสังคม ทั้งงานศพ งานแต่ง งานบวช สารพัดงานในพื้นที่รับผิดชอบ แล้วในห้วงแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และถูกจำกัดด้วยเงื่อนไข Social Distancing ภารกิจด้านสังคมลดลงตามสถานการณ์นี้หรือไม่

วัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 พรรคชาติพัฒนา หรือ ส.ส.โต ประกาศสละเงินเดือน ส.ส.ซื้ออุปกรณ์ป้องกันไวรัสโควิด-19 ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

Advertisement

“การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ ถือว่าเป็นวิกฤตที่หนักที่สุดของประเทศไทย เพราะได้สร้างผลกระทบกับชีวิตของประชาชนทุกอาชีพ ดังนั้น ในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต้องลงมาทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่เพียงเฉพาะผมเท่านั้น ผู้ใหญ่ในพรรคชาติพัฒนาทุกคนก็ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาของพรรค ก็สละที่ทำการพรรค ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ให้เป็นศูนย์ต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ภายใต้ชื่อ “ศูนย์คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19” ขึ้น มีทั้งการตัดเย็บหน้ากากอนามัยชนิดผ้า ผลิตสเปรย์ฆ่าเชื้อ และบริการพ่นยาฆ่าเชื้อให้รถยนต์ของประชาชนฟรี โดย ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนาทั้ง 4 คน ก็ได้พร้อมใจกันสละเงินเดือนมาช่วยศูนย์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

“ผมเองในฐานะเป็น ส.ส.เขต ลงพื้นที่พบปะประชาชนตลอดทุกวัน ทำงานหนักกว่าช่วงหาเสียงเสียอีก บางวันก็ต้องไปแจกหน้ากากอนามัย แจกสเปรย์ฆ่าเชื้อให้กับประชาชนไม่ต่ำกว่า 5 ชุมชน นำทีมเฉพาะกิจไปฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อตามจุดเสี่ยงต่างๆ เช่น ตลาดสดชุมชน ตลาดนัด วัด สถานีอนามัย ศาลาประชาคมหมู่บ้าน และพื้นที่ชุมชนหนาแน่นอย่างต่อเนื่อง

“ประชาชนจำนวนมากยังไม่มีหน้ากากอนามัยและเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ แม้ว่าทางหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนหลายภาคส่วนจะดำเนินการช่วยเหลือ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ บางคนมีหน้ากากอนามัยแค่ 1 ชิ้น ซักแล้วก็ต้องนำไปตากรอให้แห้งก่อน จึงจะสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ บางคนทำหายและชำรุด ส่วนสเปรย์ฆ่าเชื้อ ส่วนใหญ่ยังไม่มี คนที่เคยมีก็ใช้หมดแล้ว ไม่มีเงินซื้อใหม่ ปัญหาเหล่านี้มีให้เห็นทั่วไป ผมจึงต้องประสานงานกับผู้นำชุมชน รวมทั้ง อสม.ในพื้นที่ ให้เป็นเครือข่ายช่วยสำรวจในชุมชนตนเองว่ามีใครบ้างที่ยังไม่มีหน้ากากอนามัย และสเปรย์ฆ่าเชื้อ รวมทั้งมีจุดไหนบ้างที่ควรไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ จะได้จัดทีมลงไปช่วยเหลืออย่างทั่วถึง

Advertisement

“ขณะเดียวกันได้รณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่รักษาระยะห่างทางสังคมไว้ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ไม่จำเป็นอย่าไปรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเหมือนที่เคยทำเป็นประเพณีทุกปี รักท่านก็ควรอยู่ห่างๆ กันไว้ เพราะท่านเป็นผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานน้อยมาก หากติดเชื้อเข้าไปจะแย่แน่ ผมจะพยายามลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างสุดความสามารถ อะไรที่พอจะช่วยได้ก็พร้อมจะทำเต็มที่ ถามว่าเหนื่อยไหม ก็เหนื่อยเพราะเป็นมนุษย์เหมือนกัน แต่ในเมื่อได้รับเลือกตั้งมาเป็นผู้แทนของประชาชนแล้ว ก็ต้องทำงานให้สมกับความคาดหวังของประชาชนถึงที่สุด” วัชรพลระบุ

จักรพล ตั้งสุทธิธรรม หรือท็อป ส.ส.เชียงใหม่ เขต 3 พรรคเพื่อไทย ส่องชีวิตช่วงนี้ว่า ก่อนลงพื้นที่พบปะประชาชน ทีมงานได้เตรียมความพร้อมเรื่องความสะอาด แอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ถุงมือ หมวกคลุมและชุดป้องกันลงพื้นที่แต่ละครั้ง ไม่เอาตัวเองเป็นพาหะหรือภาระ ขณะเดียวกัน หากไม่ทำอะไรเลยเป็นเรื่องย้อนแย้ง ดังนั้น การลงพื้นที่ ได้เตรียมสิ่งของอุปกรณ์ป้องกันตัวให้กับประชาชนที่ประสบปัญหา พ่นออกซิเจน เจลฆ่าเชื้อ จัดระยะเว้นห่าง ไม่ต่อแถวใกล้กันเกินไป ลดความแออัด ซึ่งผมและทีมงานจะบุกเข้าหาประชาชนเอง เพื่อลดความเสี่ยงและสร้างพื้นที่ปลอดภัย

ช่วงลงพื้นที่ มีประชาชนได้ขอให้ช่วยเหลือเรื่องปากท้อง การประกอบอาชีพ และเศรษฐกิจฐานราก ตอนนี้ทุกอย่างนิ่งและสงบหมด เป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ อาจช่วยเหลือได้บางเรื่องและไปต่อสู้หรือผลักดันให้รัฐบาลสนับสนุน หลังวิกฤตการณ์คลี่คลาย เราจะฟื้นและฝ่าฟันไปด้วยกันอย่างไร เพื่อนับ 1 ใหม่อีกครั้ง เพื่อให้ประชาชนได้ยืนเร็วและแข็งแรงที่สุด เป็นโจทย์ที่ต้องศึกษาและถอดบทเรียนเพื่อพัฒนาต่อยอดต่อไป

“พท.ไม่เคยหยุดนิ่ง ประชุมหาแนวทางและร่วมแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อฝ่าฟันวิกฤตดังกล่าวไปด้วยกัน เชื่อว่าคนไทยไม่ทอดทิ้งกัน พรรคทำงานไม่หยุด อยากให้สบายใจ มีความเข้มแข็ง สิ่งไหนที่ทำได้ ในกรอบกติกาที่สังคมขอร้องและวิงวอนให้ปฏิบัติตาม ช่วงนี้เชียงใหม่ไม่มีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม ช่วงสัปดาห์ก่อนเชียงใหม่ติดอันดับ 4 ที่มีผู้ป่วยสะสมมากของประเทศ หลังจากนี้จะพยายามช่วยให้เชียงใหม่เป็นเซตซีโร่ให้ได้ขอให้ไว้วางใจทุกภาคส่วนได้ทำงานอย่างเต็มที่” จักรพลระบุ

ด้าน ประมวล พงศ์ถาวราเดช ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังปิดประชุมสภาสมัยสามัญได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การรักษาระยะห่างทางสังคมเพื่อป้องกันการติดเชื้อเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติอย่างเข้มงวด แม้ปัจจุบันจะไม่มีใครให้คำตอบว่าสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรงจะสิ้นสุดเมื่อใด และต้องยอมรับว่าในสถานการณ์นี้มีผลกระทบทุกด้านกับชีวิตความเป็นอยู่ประจำวัน ดังนั้น ทุกคนต้องมีสติในการป้องกันตนเอง

ประมวลกล่าวต่อว่า ส่วนตัวไม่มีปัญหา เพราะปกติการลงพื้นที่ไปพบประชาชน ขับรถกระบะไปคนเดียวไม่มีผู้ติดตาม การลงพื้นที่ทุกครั้งจึงมีเพียงหน้ากากอนามัย และเจลล้างมือพกติดตัวตลอดเวลา ถือเป็นโอกาสดีเนื่องจากพื้นที่รับผิดชอบในเขต อ.ทับสะแก อ.บางสะพาน และ อ.บางสะพานน้อย ยังไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ทำให้ประชาชนคลายความวิตก จากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามข้อแนะนำ โดยเฉพาะงานสวดพระอภิธรรมทุกงาน จะมีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ตั้งจุดคัดกรองเพื่อตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย มีเจลล้างมือก่อนเข้างาน ภายในงานจะมีการวางเก้าอี้เว้นระยะห่างไว้พอสมควร

“ที่ผ่านมาผมได้สนับสนุนงบประมาณจากค่าตอบแทน ส.ส.ร่วมกับคณะทำงาน ออกฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในแหล่งชุมชนทุกอำเภอหรือจุดที่ประชาชนร้องขอ การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์สำหรับการตั้งด่านตรวจคัดกรอง รวมทั้งการซื้อหน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์มอบโดยตรงให้ผู้บริหารโรงพยาบาลบางสะพาน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในจุดคัดกรองที่มีความเสี่ยงสูง” ประมวลกล่าว

นี่คือส่วนหนึ่งของชีวิต ส.ส.ในวันที่ทั้งประเทศหวาดผวากับภัยจากการแพร่ระบาดของไวรัส

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image