“จตุพร” อัด รบ.ไร้ประสิทธิภาพ แจกเงินเยียวยา 5,000 ยังล้มเหลว-ล้าช้า

“จตุพร” อัด รบ.ไร้ประสิทธิภาพ แจกเงินเยียวยา 5,000 ยังล้มเหลว-ล้าช้า-ทำอย่างกับเล่นหมากเก็บ

เมื่อวันที่ 12 เมษายน ที่สถานีโทรทัศน์พีซทีวี มีการจัดรายการลมหายใจ พีซทีวี เวทีทัศน์ ยังคงจัดในรูปแบบสตูดิโอ และงดกิจกรรมร้องรำทำเพลง มีเพียงการสื่อสารของประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไปยังพี่น้องมวลชนเป็นปกติทุกสัปดาห์

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. กล่าวว่า เป็นปีแรกตั้งแต่เกิดมา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ไม่มีการเล่นน้ำตามประเพณี เพราะ อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 แต่เรื่องใหญ่กว่า เรื่องการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ เรื่องความอดอยาก จากมาตรการ ที่ป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อและท้ายที่สุดรัฐบาลก็ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยที่ประชาชนต่างก็ให้ความร่วมมือ แต่คนเดือดร้อนจากมาตรการและเหตุการณ์นี้ที่ เศรษฐกิจได้พังพินาศ

ดังนั้น เมื่อรัฐบาลตัดสินใจเยียวยาประชาชนตามขอเรียกร้อง ประชาชนก็มีความหวัง ว่ารัฐบาล ให้ประชาชนแสดงความจำนงผ่านระบบโซเชียลมีเดีย ซึ่ง ขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนขอรับการเยียวยากว่า 26 ล้านคน แต่รัฐบาลก็ให้ความช่วยเหลือเป็นจำนวนน้อย รวมถึงการวางกฎเกณฑ์ก็เป็นปัญหา อีกทั้งยังมีความล่าช้า คนที่ไม่สมควรได้การเยียวยากลับได้ แต่คนที่สมควรได้กลับไม่ได้ ตนค่อนข้าง งง กับหลักเกณฑ์หลายเรื่องราวที่ยังไม่เข้าใจว่าเอาอะไรไปคิด เช่น อายุไม่ถึง 18 ปี ไม่อยู่ในวัยแรงงานเหล่านี้ ดังนั้น เมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเป็นเช่นนี้

วันนี้จึงอยากจะพูดในหัวข้อที่ว่า ถ้าแจกเงินยังสอบตก ก็ไม่ไหวแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลเองก็ต้องฟังประชาชน เพราะประชาชนจะฟังรัฐบาลที่ฟังเสียงประชาชน เหล่านี้เป็นหัวใจหลักในการต่อสู้กับไวรัสโควิด 19 หากมนุษย์ในโลกนี้ ยังแจกเงินที่ไม่ใช่เงินตัวเอง ไปแจกเงินให้กับเจ้าของเงินคือประชาชนผู้เสียภาษีอากรทั้งตรงและทางอ้อมยังสอบตก ยังผิดพลาด ก็ไม่ไหวแล้ว

Advertisement

นายจตุพร กล่าวอีกว่า วันนี้รัฐบาลต้องเข้าใจว่าเงินที่นำมาแจกคือเงินประชาชนและที่กำลังกู้ 1 ล้านล้านบาท หรือจะขยายเพดานออกไป 1.6 หรือ 1.9 ล้านล้านบาทนั้นตนยังไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องไปกู้อะไรถึงขนาดนั้นแต่ควรพักโครงการที่มีการลงทุนทุกชนิดและเอาเงินดังกล่าวมาแจกให้กับประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้ยังชีพอยู่ได้ 5000 บาทไม่ได้มากมายอะไรในโลกแห่งความเป็นจริงเพราะตราบใดที่ประชาชนยังต้องจ่ายค่าเช่าบ้านค่าน้ำ ค่าไฟ ดังนั้นคนยากจนหาเช้ากินค่ำจึงอยู่ยาก แม้กระทั่งคนที่ผ่อนบ้าน บางธนาคารให้ส่งเฉพาะดอกเบี้ย แต่เงินต้นยังอยู่ เพียงแต่หากเรามีรัฐบาลที่เอาเงินของประชาชนไปแจกคืนให้ประชาชนยังล่าช้า ยังไร้ประสิทธิภาพและยังมีความผิดพลาด

อย่างเงื่อนไขที่บอกว่า อายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ ไม่อยู่ในวัยทำงาน แต่เขาก็อยู่ในมหาวิทยาลัยก็ต้องเช่าหอพัก แม้ว่าสถาบันการศึกษาจะหยุดแล้วก็ตาม ก็ต้องใช้ชีวิตอยู่เพื่อหาวิธีการเรียนให้รู้เล่าเท่าทันกัน ต่อมาหลักเกณฑ์ที่บอกว่าไม่ได้ประกอบอาชีพหรือตกงานมาก่อนก่อนที่เกิดการระบาดของไวรัสโควิด 19 ซึ่งแปลความกันว่า เป็นผลกระทบลูกโซ่ คือ หนึ่งครอบครัวหาเงินได้เพียงคนเดียวที่ต้องนำมาเลี้ยงดูคนในครอบครัว แต่ท่ามกลาง สถานการณ์เช่นนี้หาเงินได้น้อยลงหรือหาไม่ได้เลยจะทำอย่างไร

แม้กระทั่งอาชีพเกษตรกรที่บอกว่า มีมาตรการรองรับซึ่งความจริงแล้วประชาชนที่ประกอบอาชีพเกษตรกรส่วนใหญ่ต่างก็รู้กันอย่างชัดเจนว่า ปีนี้ ถัดจากปีกลายเจอภัยแล้งเจอน้ำท่วมแล้วมาเจอภัยแล้ง มีพืชบางชนิดเท่านั้นที่ปลูกได้ ทุกคนต่างพินาศย่อยยับทั้งหมดมีตัวเลขชัดเจน รัฐบาลไปถามหากับ ธกส.ก็ทราบหมดว่า มีเกษตรกรจำนวนกี่ราย กลับบอกว่าเดี๋ยวจะมีมาตรการ วันนี้เราต้องการได้รัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ ไม่ใช่โอ้เอ้ ลอยไปลอยมา มาตรการไม่อยู่กับร่องกับรอยโดยเฉพาะเรื่องการแจงเงิน 5000บาท ตอนแรกบอก 3 เดือนบ้าง 6 เดือนบ้างก็กลับมา 3 เดือนอีก เป็นผู้บริหารประเทศแบบนี้ได้อย่างไร ทำยังกับขายหมากเก็บ

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image