“ณัฐวุฒิ” เป็นงง แจกเงินเยียวยา 5,000 หยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย บอกคิดจะให้ อย่าใจแคบ

 “ณัฐวุฒิ” เป็นงง แจกเงินเยียวยา 5,000 บาท หยุดเสาร์-อาทิตย์ด้วย บอก โรคหิวไม่มีวันหยุด ถ้าคิดจะให้ อย่าใจแคบ

เมื่อวันที่ 13 เมษายน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. และแกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย (กตป.) กล่าวว่า สมัยโบราณ ยุคต้นกรุงศรีอยุธยาเกิดโรคระบาด ชาวบ้านเรียกโรคห่า สถานการณ์ที่เรากำลังเจอมี 2 โรคพร้อมๆ กันคือ โรคห่ากับโรคหิว โควิด-19ขณะนี้ถ้าดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3-4 วันก่อนหน้านี้ลดลงทุกที จนอยู่ในระดับที่คาดหวังได้ว่า หากลดลงในอัตราส่วนใกล้เคียงกันน่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ในเวลาไม่ช้า แต่สวนทางกับจำนวนผู้ติดเชื้อโรคหิว ซึ่งเวลานี้มีจำนวนคนที่ประสบสถานการณ์ยากลำบากในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้นตลอดเวลา รัฐบาลต้องเร่งมือในการแก้ไข

ทั้งนี้ มาตรการแจกเงินรายละ 5,000 บาท ต้องทำให้ทั่วถึงโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่แจกหยุดอย่างที่เป็นอยู่ วันธรรมดาแจก เสาร์-อาทิตย์หยุด จะเว้นเสาร์-อาทิตย์ไว้ทำไม ให้งบประมาณที่จัดไว้รายละ 5,000 บาททำงานได้ตลอดเวลา เพราะโรคห่าไม่มีวันหยุด โรคหิวยิ่งไม่มีวันหยุด มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลไม่รู้จะมีวันหยุดไว้ทำไม

ส่วนกรอบระยะเวลาที่จะแจกเงิน 5,000 บาทต่อเนื่องกันไป 6 เดือนนั้น ตั้งแต่ประกาศผู้คนก็ตกใจ เพราะเท่ากับรัฐบาลประเมินว่า เราต้องอยู่กันในสภาพนี้อีกอย่างน้อย 6 เดือนจากนี้ไป แม้ภายหลังจะพยายามอธิบายว่าจ่ายจริงแค่ 3 เดือนเท่านั้น เรื่อง 6 เดือนต้องรออีกที แต่อยากจะชี้ให้เห็นว่า ประชาชนเขารอไม่ได้ ถ้าจะจ่าย 5,000 บาทติดต่อกันอีก 3 เดือนก็ควรจะขยายฐานประชาชนผู้ได้รับจาก 9 ล้านคนเป็น 18 ล้านคนหรือมากกว่านั้นได้หรือไม่ แต่ละคนที่ยื่นอย่างน้อยมีคุณสมบัติพื้นฐานเดียวกัน คือคนที่จะไม่มีกิน ดังนั้น ส่วนที่เหลือถ้าอ้างว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ ก็ทอดทิ้งไม่ได้

นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนกลไกการทำงานของรัฐ น่าจะเพิ่มบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากกว่านี้ ทั้งในแง่ของงบประมาณและการบริหารจัดการในพื้นที่ งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจะถูกจัดสรรเพื่อใช้ดูแลแก้ปัญหากันเองได้ ลดข้อกังวลเรื่องระเบียบการตรวจสอบทั้งหลาย ตำบลไหน หมู่บ้านใดเป็นพื้นที่สุ่มเสี่ยงต้องล็อคดาวน์ ให้ท้องถิ่นเขาดูแลกันเอง ถ้ารัฐบาลยังไม่สามารถเอาเงินไปใส่กระเป๋าประชาชนได้ ก็ต้องบริหารจัดการให้เอาอาหารไปถึงบ้านประชาชนให้ได้ ซึ่งท้องถิ่นเขารู้ว่าบ้านไหนอยู่กันกี่ชีวิต หลังคาเรือนไหนมีสมาชิกกี่คน

Advertisement

วิกฤตใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้สำเร็จเพราะอำนาจทั้งหมดอยู่ในมือรัฐบาล ต้องกระจายอำนาจไปให้ส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับปัญหาในแต่ละพื้นที่เขาบริหารจัดการตัวเองได้ ทั้งนี้ ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อค่อยๆ ทยอยลดลง หลังเทศกาลสงกรานต์รัฐบาลต้องเตรียมเกมรุกเอาไว้ เพื่อจะทำให้พื้นที่ในส่วนที่ยังปลอดโรค หรือพื้นที่ที่ว่างเว้นจากการตรวจพบคนติดเชื้อมาแล้วเป็นเวลานานๆ ไม่ต่ำกว่าครึ่งเดือน มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนเดินหน้าได้ ซึ่งจนถึงวันนี้ยังคงมี 9 จังหวัดในประเทศไทยที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ รัฐบาลน่าจะคิดโมเดลว่า มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจส่วนไหนที่เปิดให้ทำกันก่อน ทำให้พื้นที่ 9 จังหวัดที่ยังปลอดเชื้อเป็นโมเดลนำร่อง

ส่วนจังหวัดที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อเกินกว่าครึ่งเดือนไปแล้ว ค่อยๆ ทยอยตามมา มาตรการคัดกรอง มาตรการป้องกันโรคยังคงต้องรัดกุม แต่กระบวนการทางเศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ผ่อนคลาย ทั้งนี้ ตนไม่ได้เสนอให้ประมาท แต่รัฐบาลน่าจะคิดเผื่อไว้ก่อนได้

“กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ทูตพาณิชย์ทั้งหลายที่กระจายอยู่ทั่วโลกต้องขยับตัวแล้ว หาข้อมูล หาคู่เจรจา อ่านสถานการณ์ให้ออกว่า พื้นที่ใด ประเทศไหน ที่กำลังเกิดปัญหา และเป็นโอกาสของสินค้าไทยในการเข้าไปทำรายได้ เราแสดงตัวตลอดมาว่าเราเป็นครัวของโลก เราเป็นคลังอาหารของโลก คราวนี้จะพิสูจน์ว่าเราเป็นจริงได้หรือไม่ ท่ามกลางวิกฤตย่อมมีโอกาสอยู่เสมอ สำคัญอยู่ที่ว่า ใครจะสามารถแทรกตัวเข้าไปในวิกฤตนั้นเพื่อสร้างโอกาสได้ไหม” นายณัฐวุฒิ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image