‘โฆษก ปช.’ ข้องใจ กสม.ชั่วคราวทำอะไรอยู่ในภาวะวิกฤติโควิดระบาด บี้ทำงานเชิงรุกแข่งกับเวลา เร่งสรรหาชุดใหม่มารับช่วงต่อ
เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจและข้องใจในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ระบาดไปทั้งโลก สำหรับประเทศไทยมีคนตายและติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ประชาชนอยู่ในภาวะต้องเก็บตัวอยู่บ้าน แต่ทำไมไม่เห็น กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
ชั่วคราว 7 คนได้ทำหน้าที่ หรือแสดงบทบาทอะไรให้เห็นว่ามีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาบรรเทาทุกข์ให้คลายความวิตกกังวลหวาดหวั่นและลำบากเดือดร้อนที่เกิดจากโรคนี้ นอกเหนือไปจากออกแถลงการณ์สั้นๆ แสดงความห่วงใยประชาชน 2 ฉบับ และข่าวแจกของประธาน กสม. ซึ่งแทบไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น
นายสุพจน์กล่าวว่า ผลกระทบที่รุนแรงจากวิกฤตการณ์ไวรัสระบาดส่วนสำคัญเกิดจากการบริหารจัดการของรัฐบาล เช่น การเยียวยาช่วยเหลือเงินและอื่นๆ ไม่ทั่วถึงทุกกลุ่มของผู้เดือดร้อน ปัญหาการลงทะเบียนเพื่อขอรับเงิน 5,000 บาท ปัญหาระบบข้อมูลที่เรียกว่า Big data ปัญหาผู้ต้องขังในเรือนจำแออัดเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ ผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนที่ปิดเรียนเป็นเวลานาน ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องคนจนที่เดือดร้อนในภาวะที่เก็บตัวอยู่บ้าน คนเร่ร่อนจรจัด ไร้ที่พึ่ง เป็นต้น
“กสม.ชั่วคราว ในฐานะองค์กรอิสระควรจะทำงานเชิงรุกด้วยการระดมเจ้าหน้าที่และองค์กรเครือข่ายด้านสิทธิมนุษยชนลงไปสัมผัสปัญหา เพื่อดูและรับฟังว่าเดือดร้อนอย่างไร แล้วนำมาประชุมวิเคราะห์เพื่อเสนอเป็นนโยบายและมาตรการให้ภาครัฐบาลพิจารณาดำเนินการต่อ และต้องทำประโยชน์ให้มากกว่าจ่าเฉย ตอนนี้ชาวบ้านเขารู้สึกว่าพึ่งพิง กสม.ไม่ได้เลย ไม่รู้มัวทำอะไรอยู่ เงินเดือนเป็นแสนๆ ก็รับตามปกติ แต่กลับไม่มีผลงาน
“ระหว่างนี้มีการเปิดรับสมัครกรรมการสิทธิฯชุดใหม่ที่ยังขาดอีก 3 คน จึงขอเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาคือคณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภา เร่งรีบดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อจะได้มาปฏิบัติหน้าที่แทน กสม.ชั่วคราว และถือเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมากที่การสรรหา กสม.ชุดใหม่ ยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี ตั้งแต่ยุค สนช.มาจนถึงยุควุฒิสภาในปัจจุบันก็ยังสรรหาไม่เสร็จสิ้นเสียที ถามว่าใครรับผิดชอบและจะรับผิดชอบอย่างไร” นายสุพจน์กล่าว
