‘บิ๊กตู่’ ขอโทษ แจงยิบ5พันมีจ่ายเดือนเดียว ต้องรอพ.ร.ก.กู้ปลายเม.ย. เกษตรกร17ล้านก็รองบ

‘บิ๊กตู่’ ขอโทษ แจงยิบ5พันมีจ่ายเดือนเดียว ต้องรอพ.ร.ก.กู้ปลายเม.ย. เกษตรกร17ล้านก็รองบ

อ่านอีกครั้ง บิ๊กตู่แจงอลหม่านเงินเยียวยา 5 พัน

หลังการประชุมครม. เมื่อวันที่ 15 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนว่า

เราใช้ทั้งเงินในระบบประกันสังคมและงบประมาณปกติ สำหรับมาตรการที่จะชดเชยรายได้จำนวน 5,000 บาทต่อเดือนนั้น ทราบดีว่ามีความสับสนอลหม่านอยู่บ้างพอสมควร เห็นภาพจากที่มาร้องเรียนที่กระทรวงการคลังวานนี้ (14 เม.ย.) จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจกันใหม่เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่มให้ได้รับการช่วยเหลืออย่างทั่วถึงและเป็นธรรม เราได้พิจารณาจากฐานข้อมูลกำลังแรงงานที่มีอยู่ทั้งหมด 37 ล้านคน ประกอบด้วยผู้มีอาชีพอิสระ แรงงานนอกระบบ จำนวน 9,000,000 คน แรงงานในระบบจำนวน 11,000,000 คนและเกษตรกรอีก 17,000,000 คน นอกจากนี้ยังมีปัญหาเกี่ยวกับนักศึกษาทั้งที่ทำงานและยังไม่ได้ทำงาน อย่าลืมว่ากฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมาย จะใช้เงินอย่างไรจะต้องมีการตรวจสอบ ตนจึงไม่อยากให้รัฐบาลและคณะรัฐมนตรีเกิดข้อผิดพลาดในตรงนี้ อย่างไรก็ตาม ตนติดตามความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆทุกวัน

“ก็เห็นใจและสงสารและถือเป็นหน้าที่ที่ผมต้องทำให้กับทุกคน ผมร้อนใจมากกว่าท่าน” นายกฯกล่าว

Advertisement

**เปิดใจใช้เงินจากหลายส่วน แต่ยังเป็นแค่ตัวเลข

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้เราจำเป็นต้องใช้เงินจากหลายส่วน ส่วนแรกคือเงินที่เราจะต้องเสนอเป็นพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) การปรับโอนงบประมาณ ร้อยละ 10 ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลามากพอสมควรเพราะต้องเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรผ่านความคิดเห็นของ ส.ส.และ ส.ว.ซึ่งคงต้องใช้เวลาประมาณเดือนมิถุนายนถึงจะได้เงินก้อนนี้ออกมาใช้ ประมาณวงเงินไม่เกินแสนล้านบาท ที่จะได้คืนมาจากทุกหน่วยงานซึ่งได้ขอความร่วมมือจากทุกกระทรวงไปแล้ว ในส่วนที่สองคือเงินที่จะได้จากการกู้เงิน เป็น พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียวระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการการกู้เงินออกมาให้เป็นเม็ดเงินเพื่อที่จะได้นำมาเยียวยาได้ จึงต้องขอชี้แจงว่าถึงวันนี้ยังไม่มีเงินเลยมีเพียงตัวเลขเท่านั้น ซึ่งหลายคนก็นำตัวเลขนี้มาหารแบ่งกันไปเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลเพียงแต่ได้ตั้งไว้ว่าจะนำเงินจำนวนนี้มาทำอะไรบ้างอีกส่วนหนึ่งคือ ส่วนของ พ.ร.ก.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ซึ่งเป็นการบริหารในส่วนของระบบการบริหารทางด้านการเงินการคลังฟังเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย สับสน และไม่น่าเชื่อถือซึ่งจะส่งผลต่อเรื่องของตลาดหุ้น รวมทั้งระบบธนาคาร

**พรก.กู้เงินประกาศใช้ปลายเม.ย.นี้-แต่จะใช้ต้องผ่านกลั่นกรองอีก

พล.อ.ประยุทธ์ ในส่วนของ พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 1 ล้านล้านบาท จะมีขั้นตอนและรอการประกาศใช้ก็จะอยู่ในช่วงปลายเดือนเมษายนหรือพฤษภาคมซึ่งในการเดินหน้าเพื่อใช้เงินตรงนี้จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ตามขั้นตอนของร่าง พ.ร.ก.กู้เงิน เพราะฉะนั้นน่าจะเงินส่วนนี้ได้ประมาณเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน นี้ วันนี้เราใช้เงินรายจ่ายจากงบกลางปี 2563 และบางโครงการก็เอาคืนมาเพราะยังไม่ได้ดำเนินการก็นำมาช่วยในช่วงนี้ก่อนมีวงเงินอยู่ประมาณ 50,000 กว่าล้านบาทซึ่งจะครอบคลุมไปถึงการใช้จ่ายในการช่วยเหลือเยียวยา 5,000 บาท แค่เดือนเดียว เพราะฉะนั้นในเดือนที่2 และ 3 ก็ต้องรอเงินจาก พ.ร.ก.เงินกู้ ถือเป็นความยากง่ายของรัฐบาล เพราะเงินเหล่านี้ถือเป็นภาระผูกพันของรัฐบาลเพราะเราต้องหาเม็ดเงินมาชำระหนี้ ดังนั้นการกู้เงินจะทยอยกูเป็นก้อน ๆ ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีเงิน 1 ล้านล้านบาท อยู่ในมือทั้งหมดครั้งเดียว หลายคนอาจจะไม่เข้าใจเอาตัวเลขมาคูณและหาร อย่าลืมว่าอย่างไรก็ไม่ทันในเดือนเมษายนนี้อยู่แล้ว

Advertisement

**ย้ำมีจ่ายเดือนเดียว ที่เหลือรอพรก.กู้

“ย้ำอีกครั้งว่าวันนี้เราจ่ายได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องรอ พ.ร.ก.เงินกู้ และ พ.ร.บ.ที่จะออกมา ในส่วนที่ยังขาดเหลือก็กำลังพิจารณาตรวจสอบคัดกรองอยู่ว่าขาดเหลือตรงไหนและควรจะให้ตรงไหนเพิ่ม หรือมีปัญหาที่ระบบตรวจสอบและคัดกรอง ก็ต้องมาดูให้รอบคอบเพราะวันนี้สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นสถานการณ์สำคัญ ผมยืนยันว่าผมจะพยายามดูแลทุกท่านอย่างเต็มที่ตามขีดความสามารถที่รัฐมีอยู่ ขอให้ทุกคนเข้าใจ การสร้างความเข้าใจและการสร้างความบิดเบือนในทางที่ผิดยิ่งจะทำให้การทำงานยากยิ่งขึ้น “นายกรัฐมนตรีกล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะที่เม็ดเงินยังไม่ออกมานั้นในการรองรับช่วยเหลือกลุ่มต่างๆก่อนที่ พ.ร.ก.เงินกู้จะมีผลบังคับใช้ทั้งอาชีพอิสระ รับจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว กิจการส่วนตัว ค้าขาย รวมทั้งอาชีพอิสระประกันสังคมตามมาตรา 39 และ 40 ประมาณ 9,000,000 คน ซึ่งตอนแรกเรามีเม็ดเงินในการช่วยเหลือคนเพียง 3,000,000 คนซึ่งไม่ได้เป็นโคต้าเพียงแต่นำเม็ดเงินที่มีอยู่มาพิจารณาว่าจะจ่ายได้เท่าไหร่เฉลี่ยแล้วได้ 5,000 บาทต่อเดือน จากจำนวน 3,000,000 คน แต่เมื่อจำเป็นต้องขยายความช่วยเหลือไปเป็น 9,000,000 คนก็ต้องดูว่าจะหาเงินมาจากตรงไหน ซึ่งหลายคนก็เกรงว่าจะไม่ได้รับ แต่ช่วงนี้ก็ต้องยอมรับว่าช่วงนี้ก็มีปัญหาไม่รู้จะเอาเงินจากส่วนไหนไปโอนให้ ซึ่งก็คงต้องรอสักระยะหนึ่ง แต่ก็เข้าใจความเดือดร้อนของทุกคน

**เตือนพวกหากินรับจ้างกรอกข้อมูล

“วันนี้ก็เป็นห่วงคนที่ไปหาผลประโยชน์ซึ่งบางคนมีความลำบากและยากจนอยู่แล้วยังเอาเงินไปจ้างให้คนส่งข้อมูลเพื่อเข้าสู่ระบบการคัดกรองของกระทรวงการคลังเพราะทำไม่เป็น ทราบว่าเป็นจำนวนเงินประมาณ 1,000 บาท โดยไปกู้เงินนอกระบบมาแต่ผลสุดท้ายระบบคัดกรองไม่ผ่านก็เท่ากับเสียเงินไป 1,000 บาท เงิน 5,000 ก็ไม่ได้ ผมถือว่าคนที่แสวงหาผลประโยชน์เหล่านี้เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจ บางคนก็มีการปลอมเอกสารเพื่อไปรับประโยชน์ต่างๆคนเรานี้ไม่คิดว่ายังมีอยู่ในประเทศไทยแต่เชื่อว่ายังมีอีกเยอะ รวมทั้งนายทุนเงินกู้ต่างๆ เมื่อรัฐบาลมีมาตรการต่างๆออกมาก็ควรจะช่วยเหลือรัฐบาลบ้างหากเป็นเช่นนี้ก็ต้องใช้มาตรการทางกฏหมายอย่างเต็มที่ อย่ามัวแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ทรมาณแสนสาหัสของประชาชน แล้วจะมีความสุขหรือ”นายกรัฐมนตรีกล่าว

**เงินที่ขาดจะดึงจากงบกลาง-เงินฉุกเฉิน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนที่ยังขาดอยู่ก็คงจะต้องหาเงินเพิ่มมาอีกทั้งจากงบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน 45,000 ล้านบาท แต่หลังจากเดือนเมษายนไปแล้วเราก็ต้องรอเงินจะจาก พ.ร.ก.เงินกู้ ถึงจะมีเงินก้อนไหนออกมา ก็ต้องมาดูว่าในเดือนที่ 2-3-4 เพียงพอหรือไม่แล้วจะให้กันอย่างไร

“แต่ทุกคนผมรับรองว่าจะดูแลให้ครบทุกคน”

ในส่วนของแรงงานในระบบประกันสังคม ที่มีรายได้ประจำ ประกันสังคมมาตรา 33 มีอยู่จำนวน 11 ล้านคน วันนี้ได้ใช้เงินจากกองทุนประกันสังคมประมาณ 2 แสน 3 หมื่นล้านบาท ก็ได้มีการปลดล็อคต่างๆผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปิดกิจการรัฐบาลต้องหามาตรการในการช่วยเหลือวันนี้กระทรวงแรงงานก็จำเป็นต้องไปหาเม็ดเงินเพิ่มถือเป็นการบริหารของกองทุนประกันสังคม ขอร้องว่าอย่าว่ากันไปมาเลย เพราะเงินจำนวนนี้ก็เป็นเงินที่ทำให้แรงงานสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้

**เกษตรกร 17 ล้านราย รองบช่วยจากแหล่งอื่น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนที่กำลังหารือคือเกษตรกร 17 ล้านคน กำลังจะพิจารณาหาเงินจากแหล่งอื่นตามกฎหมายงบประมาณ กฎหมายทางวินัยการเงินการคลังมาให้เกษตรกรในเดือนแรก และเดือนถัดไปต้องรอเงินกู้เหล่านี้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นทุกอย่างวันนี้เราทำได้แค่เพียง 1 เดือน ที่เหลือต้องรอพ.ร.ก.เงินกู้และจะไปดูระยะที่ 2,3 และ 4 เพราะฉะนั้นบางทีก็พูดกันเกินเลยไป ได้ 3 เดือนบ้าง อะไรบ้าง ยังไม่ได้ข้อยุติเลย ตอนนั้นที่พูดออกไปหลายคนก็ร้อนใจ หลายคนก็อยากช่วยประชาชน บางทีมันก็คืนย้อนกลับมาก็ขอร้องให้ทำความเข้าใจด้วย

**ขอโทษได้รับเงินเยียวยาไม่ทั่วถึง

“เรื่องของเงิน 5 พันบาท ขอย้ำว่าต้องไม่มีการทุจริตโดยเด็ดขาด ทุกคนต้องช่วยกันตรวจสอบและรักษาสิทธิของตนเอง สิทธิ์ 5 พันบาทก็ต้อง 5 พันบาท ไม่ใช่สิทธิ์ 5 พันบาทแล้วท่านไปให้คนอื่นจนเหลือแค่ 4 พันบาทหรือ 3 พันบาท มันไม่ใช่ ฉะนั้น ท่านต้องอดทน ต้องขอโทษด้วยถ้าทุกคนยังไม่ได้รับโดยทั่วถึงกัน วันนี้หลายส่วนก็รับฟังจากภาคเอกชน ธุรกิจเอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอี ผู้ค้าย่อย ฟังหมดทุกคน ข้อเสนอแยะเยอะไปหมด รัฐบาลก็จำเป็นต้องนำเรื่องเหล่านี้มาพิจารณาว่า จะใช้วงเงินเหล่านี้ทำอะไรได้บ้าง ก็ขอกราบเรียนให้ทุกคนทราบ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image