‘ศรีสุวรรณ’มึน กฟผ.ซื้อรถเข็นผักคันละ 1.5 แสน สูงกว่าราคาปกติ 100 เท่า ต้นเหตุไฟฟ้าแพง

‘ศรีสุวรรณ’มึน กฟผ.ซื้อรถเข็นผักคันละ 1.5 แสน สูงกว่าราคาปกติ 100 เท่า ต้นเหตุไฟฟ้าแพง

วันที่ 23 เมษายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่ประชาชนจำนวนมากออกมาร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาค่าไฟฟ้าแพงมากในรอบบิลที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นประเด็นปัญหาซ้ำเติมประชาชน ในช่วงที่รัฐบาลรณรงค์ขอร้องให้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

กระทั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบออกมาแก้หน้าด้วยการเสนอมาตรการเพิ่มเติมในการลดค่าครองชีพให้ประชาชน โดยคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมานั้น การออกมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ประชาชนเพียง 3 เดือนเป็นเพียงการแก้ผ้าเอาหน้ารอดในเหตุเฉพาะหน้าของกระทรวงพลังงานและรัฐบาลเท่านั้น

“ แต่ไม่เคยกลับไปทบทวนว่าต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้เกิดราคาค่าไฟฟ้าราคาแพงนั้นอยู่ที่ไหน และอย่างไร ล่าสุดสมาคมฯได้ตรวจสอบพบว่า กฟผ. ได้จัดซื้อครุภัณฑ์ต่างๆเพื่อนำมาใช้ในสำนักงานและสถานีบริการไฟฟ้าต่างๆทั่วประเทศมีความผิดปกติหลายประการ แทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นการจัดซื้อจัดหาโดยองค์กรที่ได้รับรางวัลองค์กรโปร่งใสมาอย่างต่อเนื่องจาก ป.ป.ช.

Advertisement

เช่น การจัดซื้อรถเข็น ลักษณะเดียวกับรถเข็นผักทั่วไป เพื่อใช้ในแผนงานโครงการ Supply and Construction of 500/230 kv(GIS) มีราคาคันละ 152,956.21 บาท หากไปหาซื้อแถวย่านวรจักร หรือย่านรังสิต ก็ไม่น่าจะเกินคันละ 2,000 บาทเท่านั้น แต่ กฟผ. ซื้อในราคาที่แพงลิบลิ่ว ไม่แน่ใจว่ารถเข็นดังกล่าวทำด้วยทองคำหรืออย่างไร” นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวอีกว่า ปัญหาการจัดซื้อครุภัณฑ์ของ กฟผ.ดังกล่าวเป็นเพียงฝุ่นใต้พรมที่ไม่มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง ปล่อยให้รัฐวิสาหกิจดังกล่าวบริหารจัดการเงินแผ่นดินเหมือนเป็นบ่อน้ำมันของรัฐวิสาหกิจที่นำมาหล่อเลี้ยงพนักงานเจ้าหน้าที่ถึง 22,413 คน เพราะค่าใช้จ่ายทั้งหมดดังกล่าวจะถูกนำมาคิดเป็นต้นทุนในการบริหารจัดการไฟฟ้า

Advertisement

และผลักภาระทั้งหมดมาให้ผู้ใช้ไฟฟ้าทุกครัวเรือนผ่านค่าต้นทุนผันแปรหรือค่า เอฟที ซึ่งถึงเวลาแล้วที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)จะต้องตรวจสอบ กฟผ.อย่างจริงจังและรวดเร็ว ตั้งแต่ฝ่ายจัดซื้อเรื่อยไปจนถึงผู้ว่าการฯ ว่ามีส่วนรับรู้การจัดซื้อจัดหาพัสดุหรืออุปกรณ์ในราคาแพงกว่าปกติหรือไม่อย่างไร

เพราะแต่ละแผนงานโครงการฯมีการตั้งงบจัดซื้อนับพันล้านบาท อาทิสัญญาเลขที่ W100321-222M-SPPC-S-02 มีมูลค่าถึง 1,130,698,504.73 บาท เพื่อที่จะได้นำมาลงโทษและกำหนดมาตรการป้องกันที่เข้มงวดต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image