ศบค.ปัดปลดล็อก 32 จังหวัด บอกยืดพ.ร.ก.ฉุกเฉินแน่ แต่รอครม.เคาะ ย้ำออกนอกบ้านยังเสี่ยง หวั่นไวรัสระลอกใหม่ แนะ สวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ ขึ้นรถไฟฟ้าอย่าคุยกัน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 23 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ตอบข้อซักถามถึงมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสระลอกใหม่ เพราะขณะนี้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติมากขึ้นแล้วว่า เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง ประชาชนอาจจะเบาใจสบายใจ
เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง จึงออกไปทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่ก็อยากให้คิดไว้อยู่ในใจเสมอว่า การออกนอกบ้านมีความเสี่ยงในการรับเชื้อ จึงอยากให้มีการป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัย สัมผัสสิ่งใดแล้วหมั่นล้างมือ และที่สำคัญคือต้องกินร้อน ช้อนตัว ส่วนกิจกรรมใดที่ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปเลย อยู่ที่บ้านดีที่สุด อย่างที่เคยให้ความร่วมมือเหมือนในช่วงแรกๆที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ขณะที่ผู้ประกอบการ
โดยเฉพาะผู้ประกอบการชนส่งก็ต้องยึดให้มั่น บนรถไฟฟ้าต้องไม่แออัดเกินไป หากต้องแออัดก็ต้องแนะนำให้ประชาชน เมื่อจับราวรถไฟฟ้าแล้ว ต้องไม่นำมาสัมผัสบนใบหน้า และต้องล้างมือทันที ให้สวนหน้ากากตลอดเวลา และที่สำคัญห้ามพูดคุยกันเลย
เพราะการพูดคุยกันจะเกิดละอองฝอยที่กระจายออกมา สามารถทะลุหน้ากากผ้าออกมาได้ ดังนั้น ทั้งส่วนบุคคลและผู้ประกอบการต้องช่วยกันดูแลกันและกัน เชื่อว่า ชุดพฤติกรรมใหม่ที่เราทำกันเป็นประจำจะทำให้เราควบคุมโรคนี้ต่อไปได้อีก วันนี้เดือนที่ 4 เพื่อผ่านไปยกที่ 4 เอง ต้องยืดยาวถึง 12 ยก เก็บแรงไว้ให้ดีๆ การ์ดอย่าตก
เมื่อถามความชัดเจนถึงกระแสข่าวว่า วันที่ 1 พฤษภาคมนี้ จะปลดล็อก 32 จังหวัดจังหวัดก่อน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า มีคนโทรมาสอบถามเยอะมาก แต่ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ออกมาจากทางศบค. โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. ระบุเลยว่า ต้องให้มีการศึกษาให้ชัดเจนก่อน แต่แนวโน้มต้องยืดระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปแน่นอน โดยจะมีการผ่อนปรนบ้าง แต่ยังไม่มีรายละเอียดใดๆเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเห็นชอบโดยที่ประชุมศบค.ก่อนผ่านเข้าที่ประชุมครม.ด้วย
