“ส.ส.ปชป.”เหน็บ ฝ่ายค้าน ไม่ใช่เวลาขอเปิดวิสามัญชำแหละเงินกู้

“ส.ส.ปชป.”เหน็บ ฝ่ายค้าน ไม่ใช่เวลาขอเปิดวิสามัญชำแหละเงินกู้ แต่ควรเปิดประชุมเพื่อระดมสมองแก้ปัญหาโควิด-19 ชี้วินาทีนี้คนไทยไม่ต้องการเหรียญทองตัวเลขผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดในโลก หวังแค่มีเงินในกระเป๋า

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมล่ารายชื่อขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อชำแหละ พ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลจะนำไปแก้ไขปัญหาโควิด-19 ว่า ตนเคารพความชอบธรรมของฝ่ายค้านที่มีหน้าที่ตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาล แต่ไม่คิดว่า การขอเปิดสภาสมัยวิสามัญตอนนี้ จะทำให้ประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินของรัฐมีเพิ่มขึ้น เพราะสิ่งที่ต้องทำก่อนในวันนี้คือการชั่งน้ำหนักหลักคิดเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสที่เหมาะสมกับประเทศ ซึ่งทั่วโลกแก้ปัญหาโควิด-19 ใน 2 รูปแบบ 1.เอาด้านสาธารณสุขนำ เศรษฐกิจตาม เป็นแบบเดียวกับที่ไทยกำลังใช้อยู่ มีข้อดีเรื่องจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อ และตัวเลขผู้เสียชีวิตจะค่อนข้างต่ำ แต่ต้องแลกมากับเรื่องปากท้องที่เริ่มจะมีปัญหา และ2.เอาเศรษฐกิจนำสาธารณสุข แบบที่ยุโรปบางประเทศใช้อยู่ เศรษฐกิจของเขาได้รับผลกระทบน้อย แต่จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่พุ่งสูง ปัญหาคือการแก้ไขสถานการณ์ของโรค ไม่ใช่แค่ต้องปรับวันต่อวัน แต่ต้องปรับวิธีคิดแทบจะทุกวินาที

“วินาทีนี้คนไทยคงจะไม่ต้องการแชมป์เหรียญทองจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อยที่สุดของโลก แต่อีกกว่า 60 ล้านคน หวังจะมีเงินในกระเป๋าเพื่อให้เพียงพออยู่รอดในสถานการณ์แบบนี้ด้วย ผมเข้าใจความหวังดีของฝ่ายค้าน แต่ก็เชื่อว่ารัฐบาลเองคงไม่ดันทุรัง ฟังเสียงเรียกร้องของชาวบ้านอยู่ตลอดเช่นกัน การปรับวิธีการเยียวยาหรือแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ได้ว่า รัฐบาลไม่ได้เปลี่ยนแนวคิดกลับไปกลับมา เพราะดำเนินนโยบายผิดพลาด แต่จำเป็นต้องเลือกใช้วิธีการรับมือปัญหาแบบไม่ตายตัว เพื่อทางออกของประเทศเวลานี้”นายอิสระ กล่าว

ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญของการแก้ปัญหาคือ อย่าคิดบนสมมติฐานที่ว่า คนรายได้น้อยหรือผู้เดือดร้อน กระจายอยู่ทั่วประเทศ เพราะตามตัวเลขสัญญาณของสึนามิเศรษฐกิจ จากข้อมูลของธนาคารโลก และธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ระบุถึงตัวเลขจีดีพี ไทย ติดลบกว่าร้อยละ 5 แย่ที่สุดในรอบหลายสิบปี ดังนั้นสภาพความจริงวันนี้คนรายได้น้อยจึงไปยืนรออยู่ที่ปากอ่าวไทยกันหมดแล้ว หากสึนามิด้านเศรษฐกิจมาถึงจริงๆ ก็จะถูกกวาดต้อนเป็นกลุ่มแรกๆ ตนไม่ขัดข้องกับการขอเปิดสภาสมัยวิสามัญของฝ่ายค้าน แต่ไม่ใช่จะมาเปิดสภาฯ เพียงเพื่อจะชำแหละหรือท้วงติงการใช้จ่ายเงินกู้เวลานี้ ถ้าจะเปิดก็ควรจะเป็นการระดมสมองของฝ่ายค้านอีกแรง เพื่อชั่งน้ำหนักมากกว่า ว่าเวลานี้จะสร้างสมดุลระหว่างมาตรการด้านสาธารณสุข และแนวทางเยียวยาเงินในกระเป๋าของชาวบ้านได้อย่างไร มากกว่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image