วรงค์เย้ย ตัวเลขติดโควิดไทยลด สร้างความผิดหวังฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส.พิษณุโลก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom เรื่อง ประเทศทำได้ดีแต่มีคนผิดหวัง!!!
วันนี้ 23 เมษายน ประเทศไทยของเรา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13 คน นับว่าเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นผลจากมาตรการ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามมาด้วยเคอร์ฟิว และห้ามขายแอลกอฮอล์ ที่สำคัญที่สุดคือความร่วมไม้ร่วมมือของคนไทย
ในขณะที่คนไทยเรา ภูมิใจต่อจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ลดลง ทำให้ไทยเราได้รับการยอมรับสูงมากในสายตานานาชาติ แต่ก็มีคนจำพวกหนึ่ง ยังไม่ทิ้งความพยายามที่จะสร้างความแตกแยกในสังคม นับวันยิ่งแสดงออกแบบผิดหวัง ไม่คิดว่าประเทศของเราจะทำได้ดีมาก เลยยิ่งตีโพยตีพาย และหามุมสร้างความแตกแยกมากขึ้น
ตอนนี้ประเทศของเราเดินมาถูกทาง ไม่เพียงแต่เรื่องโควิดเท่านั้น แต่หมายถึงสังคมไทยเราจะเดินไปสู่มาตรฐานใหม่ (new normal) ที่จะค่อยๆ เปลี่ยนหลังจากหลายๆ จังหวัดเริ่มปลดล็อก ขอให้พวกเรามั่นใจในทิศทางที่รัฐบาลนำพา ถ้ากลุ่มคนที่ว่าไม่ปรับตัวตาม จมอยู่ในอดีต (ชูคนโกงแล้วหนี เสรีภาพที่ไร้ระเบียบ อ้างแต่ชนชั้นนำกดขี่ แบ่งแยกคนรวยคนจน ทำลายกองทัพ) ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ อย่าหวั่นไหว………..เดี๋ยวเขาก็คงตกขบวนไปเอง
ก่อนหน้านี้ นพ.วรงค์โพสต์ข้อความระบุว่า ฝ่ายค้านเยอะไปหรือเปล่า??? จำได้ว่าในช่วงโควิดระบาดใหม่ๆ ฝ่ายค้านก็พยายามเสนอมาตรการ และโจมตีว่ารัฐบาลล้มเหลวในการป้องกันการแพร่เชื้อ หลังจากที่รัฐบาลได้ปรึกษาหารือทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมาตรการต่างๆ ออกมา
กลายเป็นว่า ประเทศไทยได้รับคำชื่นชมว่า ความร่วมมือของประชาชนคนไทย และการควบคุมการแพร่ระบาดของไทยดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จนนานาชาติชื่นชม ฝ่ายค้านจึงต้องเงียบลงมาล่าสุดคือ ผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชน เป็นเรื่องปกติที่ต้องได้รับผลกระทบในวงกว้างทั่วโลก เราเห็นฝ่ายค้านออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ที่หนักมากคือ การที่รัฐบาลเชิญมหาเศรษฐี เพื่อมาร่วมปรึกษาหารือ ถ้าเรามองในสามัญสำนึกทั่วๆ ไปก็น่าจะดีนะ ที่รับฟังคนที่เขาประสบผลสำเร็จ
แต่แปลกที่ฝ่ายค้านแสดงออกจนน่าตกใจ ปั่นกระแส #รัฐบาลขอทาน จนขึ้นติดอันดับ ตามด้วย #รัฐบาลส้นตีน และล่าสุดยังออกมาต่อว่า ว่าการทำจดหมายเชิญ ทำให้เศรษฐีที่อยากบริจาคไม่กล้าบริจาค มันช่างย้อนแย้งกับวันก่อนที่ติด #รัฐบาลขอทาน
ผมคิดว่าการรุกรูปแบบเชิญผู้ประสบความสำเร็จ คล้ายเชิญทีมแพทย์นี้ เป็นการรุกที่ฝ่ายค้านคิดไม่ถึง ถ้ามองด้วยความเป็นธรรม ถือว่ารัฐบาลเปิดกว้าง ฝ่ายค้านน่าจะใจเย็นสักหน่อย ว่าเขาคุยอะไรกัน เอื้ออะไรให้กันไหม จะได้ไม่เสียหน้า เหมือนเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาด
แถมท้ายหน่อยนะว่า การรับของบริจาคของประชาชนช่วงโควิด ไม่ใช่ตัวชี้วัดภาวะอดอยากของประเทศหรอก แต่เป็นน้ำใจของผู้ให้ และความคุ้นเคยของผู้รับ เพราะผมเคยเป็นประธานศาลเจ้า เทกระจาดมาหลายรอบ แม้ไม่มีวิกฤตอะไร คนก็มากันแน่นมาก เพียงแต่ช่วงนี้ควรจะจัดระเบียบเพื่อป้องกันเชื้อโควิดด้วย
