ทุ่ม 3 หมื่นล้าน ยกระดับคุณภาพชีวิต 3 จังหวัดชายแดน ไก่อู เผย เผยสถานการณ์ดีขึ้นเยอะ

เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยได้กำหนดนโยบายการบริหารและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 2559 – 2561 ที่เน้นการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนาและแนวทางสันติวิธีมาประยุกต์ใช้ ผ่านกลไกการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้

“วันนี้สถานการณ์โดยรวมในพื้นที่ดีขึ้น เหตุความรุนแรงน้อยลง แต่รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงยังคงเฝ้าติดตาม และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างเข้มงวด และได้ทำงานร่วมกับประชาชนตามแนวทางประชารัฐ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านการลงทุน โดยหลังจากเปิดประชาคมอาเซียนแล้ว มีการลงทุนในพื้นที่มากขึ้น” พล.ต.สรรเสริญกล่าว

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ในปี 2559 รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท ภายใต้ยุทธศาสตร์เร่งรัดการพัฒนารากฐานที่ยั่งยืนของประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังออกมาตรการส่งเสริมการลงทุน เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี ไม่จำกัดวงเงิน และลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งอนุญาตให้ใช้แรงงานต่างด้าวไร้ฝีมือได้ ล่าสุดคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ขยายเวลามาตรการภาษีให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจใน จ.นราธิวาส ปัตตานี ยะลา สตูล และสงขลา เฉพาะที่ อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย เช่น ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ลดอัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ และยังให้บุคคลและบริษัทห้างร้านสามารถหักค่าใช้จ่ายค่าซื้อค่าติดตั้งระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในอัตราร้อยละ 100 ของรายจ่าย เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อีกทางหนึ่ง

“นายกฯ ฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัดชายแดนใต้เพิ่มเติม เช่น พัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสะเดา ปาดังเบซาร์ ปรับปรุงขีดความสามารถท่าเรือสงขลาและท่าเรือปัตตานี พัฒนานิคมอุตสาหกรรมฉลุง พัฒนาตลาดชายแดนสะเดา ปาดังเบซาร์ เบตง สุไหงโกลก และตากใบ ส่งเสริมสินค้าโอท็อปป้อนตลาดมาเลเซียและสิงคโปร์ และพัฒนาหมู่เกาะตะรุเตา อาดังราวี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ระดับโลกโดยให้เร่งรัดศึกษาข้อมูล หากโครงการใดที่มีความพร้อมก็ให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 เป็นต้นไป”พล.ต.สรรเสริญกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image