‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศไม่รับเงินที่ปรึกษาสู้โควิด เผยรับบทบุ๋น ยันไม่ก้าวก่าย

‘หมอเหรียญทอง’ ประกาศไม่รับเงินที่ปรึกษาสู้โควิด รับบทบุ๋น ยันไม่ก้าวก่าย

ไม่รับเงิน – สืบเนื่องวานนี้ (1 พฤษภาคม) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 21/2563 แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม ในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยปรากฏรายชื่อสำคัญ อาทิ นพ.จรัส สุวรรณเวลา เป็นประธาน, นายเทียนฉาย กีระนันทน์ เป็นรองประธาน, นายวุฒิสาร ตันไชย, นายสมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์, นายวรากรณ์ สามโกเศศ, พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา, นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล, นายวีระ ธีระภัทรานนท์, นายสมชัย จิตสุชน

ย้อนอ่าน : บิ๊กตู่เซ็นตั้งทีมที่ปรึกษาสู้โควิด “นพ.เหรียญทอง-ประสาร-สมชัย-วีระ” ร่วมด้วย

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เปิดเผยผ่าน เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ขอทำงานฟรี ไม่รับค่าตอบแทนใดๆ

โพสต์ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ระบุว่า ผมขอประกาศตนอย่างชัดเจนว่าจะทำหน้าที่เป็นกรรมการคนหนึ่งในคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 อย่างสุดกำลังเต็มความสามารถ โดยไม่ขอรับผลตอบแทนใดๆ ผมจะทำงานให้ฟรีตามที่ผมเคยพูดไว้ ผมมีเจตนารมณ์ตั้งใจทำงานเพื่อชาติที่มี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ที่ผมพูดเสมอๆ ว่าเป็นผู้นำที่จะนำพาชาติไทยให้ฟันฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปได้

Advertisement

ถึงแม้ผมจะไม่ใช่นักวิชาการก็ตาม แต่ผมเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นแสวงหาแนวทางเพื่อเสนอแนะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าทอดต่อธุรกิจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เป็นลูกโซ่ให้เกิดการจ้างงานแก่คนในชาติ สามารถดำรงชีวิตไปได้ตามอัตภาพในสถานการณ์โควิด-19 ที่จะลากยาวต่อเนื่องอีกหลายปี

ความเห็นส่วนตัวของผม เห็นว่าประเทศไทยจะต้องใช้จุดแข็ง ‘ดินแดนปลอดภัยโควิด-19’ , ใช้จุดแข็งด้านการแพทย์ ‘สุขภาพขับเคลื่อนเศรษฐกิจชาติ’ , ใช้วิกฤตเป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อหารายได้เข้าประเทศ, ใช้ทรัพยากรภายในประเทศที่ทิ้งร้างว่างเปล่าไม่เกิดผลผลิต [Productivity] ให้นำมาสร้างรายได้ เกิดการจ้างงาน ซึ่งเป็นแนวทางแก้ไขผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ที่จะช่วยประคับประคองการดำรงชีวิตของคนในชาติไปได้จนกว่าจะมีวัคซีนหรือยาหรือวิธีการอื่นใดที่มีประสิทธิผลในการป้องกันโควิด-19 ได้ ซึ่งสถานการณ์นี้อาจต้องใช้เวลานานนับปีที่เราจะปล่อยให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นไปตามยถากรรมโดยไม่ดิ้นรนหาแนวทางไม่ได้อย่างเด็ดขาด

“ผมขอเรียนท่านทั้งหลายว่าเพราะความห่วงใยต่อประเทศชาติ ไม่ต้องการเห็นสภาพล่มสลายทางเศรษฐกิจที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของคนในชาติ ไม่อยากเห็นสภาพแร้นแค้น จนกระทั่งรัฐไม่มีงบประมาณแผ่นดินเพียงพอที่จะนำมาช่วยรักษาผู้ป่วยและพัฒนาประเทศในด้านอื่นๆ…ผมไม่ได้ดราม่านะครับ หากท่านทั้งหลายมีความคิดสร้างสรรค์สามารถส่งความคิดเห็นนั้นมาทางกล่องข้อความถึงผมด้วย ผมจะศึกษาและพยายามนำมาบูรณาการเป็นหนทางเพื่อนำเสนอคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 พิจารณา ก่อนที่จะนำเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดฯ ที่มีนายกฯเป็น ผอ.ศูนย์ ต่อไปครับ…(ผมไม่ได้ทำหน้าที่ใกล้ชิดนายกฯนะครับ ได้โปรดอย่าเข้าใจผิด ระบบงานมีขั้นตอนนะครับ)” พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว

Advertisement

โพสต์ของ พล.ต.นพ.เหรียญทอง ระบุอีกว่า ผมอยากเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะส่วนตัวของผมว่า เมื่อผมมีหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชา [Commander] ผมจะเป็นคน ‘บู๊’ ดุเดือดอย่างที่สาธารณชนเข้าใจกัน แต่เมื่อผมมีหน้าที่เป็นเสนาธิการ [Staff] ซึ่งเป็นงานฝ่ายอำนวยการ งานที่ปรึกษา ผมก็จะเป็นคน ‘บุ๋น’ จะไม่ไปก้าวก่าย ก้าวล่วง ไม่ไปดุเดือด ผมตระหนักในหน้าที่และบทบาทของผมเสมอว่าหน้าที่ใดจะต้องรู้จักวางตนและมีบทบาทอย่างไร ดังนั้น เมื่อ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีให้ความไว้วางใจให้ผมทำหน้าที่เป็นกรรมการคนหนึ่งในคณะที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและผลกระทบแล้ว ผมก็ต้องรู้หน้าที่และบทบาทในการเป็นแค่กรรมการคนหนึ่งในคณะที่ปรึกษาสิครับ หน้าที่ตามคำสั่งนี้ คือ ให้ความเห็นทางวิชาการ เสนอแนะแนวทางต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากสถานการณ์ระบาดโควิด-19 เท่านั้น

“ผมจะไม่ไปก้าวก่าย ก้าวล่วงในหน้าที่ที่ไม่ใช่หน้าที่ของผมอย่างเด็ดขาด…ผมเคยเป็นเสนาธิการ [Staff] มาก่อนที่จะเป็นผู้บังคับบัญชา [Commander] จึงกล้าพูดได้ว่าผ่านมาทั้งบู๊และบุ๋นมาแล้ว…บทบาทนี้ผมจะบุ๋นนะครับ …จะไม่ปากสุนัข ใจสัตว์ให้เห็นกันแล้วนะครับ…555” พล.ต.นพ.เหรียญทองกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image