“หมอเรวัต” สงสัยเคอร์ฟิวหยุดโควิดได้จริงหรือ
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นพ.เรวัต วิษรุตเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ”เคอร์ฟิวหยุดโควิดได้จริงหรือ???” ระบุว่า รัฐบาลประกาศเคอร์ฟิวระหว่างเวลา 4ทุ่มถึงตี 4เริ่มวันที่ 3 เมษายน ออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา9 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 กำหนดโทษไว้ว่าหากใครฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 4 หมื่น บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โดยให้เหตุผลอย่างชัดเจนว่าเพื่อควบคุมการระบาดของโรค โควิด
วันนี้ครบ 1 เดือนของการบังคับใช้เคอร์ฟิว ซึ่งมีผู้ฝ่าฝืนและถูกดำเนินคดีทุกคืนเป็นจำนวนหลายหมื่นคน การฝ่าฝืนเคอร์ฟิวที่เป็นมาตรการเพื่อควบคุมการระบาดของโรค ผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวจึงเป็นผู้ฝ่าฝืนการควบคุมโรค เพราะฉะนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเคอร์ฟิวควบคุมการระบาดของโรคได้จริง จึงต้องตรวจสอบประวัติผู้ถูกจับกุมทั้งหมดว่ามีติดเชื้อหรือป่วยจากโควิดกี่ราย
ถ้าพบว่ามีจำนวนมากอย่างมีนัยสำคัญตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินประกาศเคอร์ฟิวก็จะมีความชอบธรรมและมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อประชาชน แต่ถ้าการตรวจสอบให้ผลตรงกันข้ามคือจำนวนไม่มีนัยสำคัญเลยก็ต้องยกเลิกเคอร์ฟิวเพราะข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ไม่แสดงความสัมพันธ์หรือหลักฐานเชิงประจักษ์(Evidence Base)ระหว่างเคอร์ฟิวกับการระบาดของโรค จึงไม่สนับสนุนข้ออ้างในการใช้เคอร์ฟิวไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะฉะนั้นการใช้กฎหมายพิเศษ เช่น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อประกาศเคอร์ฟิวจึงจำเป็นต้องโปร่งใส มิเช่นนั้นประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะสงสัยว่าการใช้อำนาจของรัฐบาลมีเจตนาแอบแฝงอื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อควบคุมการระบาดของโรคเพียงอย่างเดียว
วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเพียง 1 ราย รัฐบาลห้ามฉวยโอกาสอ้างว่าเพราะเคอร์ฟิว นอกจากจะมีตัวเลขมาแสดงให้เห็นว่าพวกต้องคดีเคอร์ฟิวคือผู้ติดเชื้อและมีความเกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรค เมื่อควบคุมคนกลุ่มนี้ได้ ผู้ติดเชื้อจึงลดลง ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เลยรัฐบาลจะยกเลิกเคอร์ฟิวหรือยังคงจะบังคับใช้ต่อไป???
