โฆษกศบค. ชี้ไปสวนสาธารณะต้องใส่หน้ากาก วิ่งทำหายใจไม่ทัน แนะ เดินดีกว่า 30 นาทีขึ้นไปก็ได้เหงือ
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 6 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ตอบข้อซักถามถึงบทลงโทษร้านค้า ผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการหรือฝ่าฝืนตามคำสั่งต่างๆว่า จริงๆ แล้วบทลงโทษถ้ายึดตามกฏหมายก็มีอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เจตนาเบื้องต้นของกฏหมายที่ออกมาไม่ได้ต้องการให้มีการลงโทษ แต่ที่ต้องออกบทลงโทษ เพราะต้องการให้มีความร่วมมือ
ดังนั้น ถ้าร่วมมือแล้วเกิดผล สามารถควบคุมโรคได้ ถือว่าเป็นผลดีต่อสุขภาพ ดีต่อครอบครัว และดีต่อประเทศไทยของเราด้วย จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องพูดทวนว่า จะมีโทษทางกฏหมายอย่างไรหากพบการฝ่าฝืน อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีตัวอย่างดี ๆ เยอะแยะที่ให้ความร่วมมือ หรือถ้าไม่ร่วมมือก็มีตัวอย่างดีๆ อย่าง ผู้ใหญ่บ้าน ในอำเภอสิเกา จ.ตรัง ลงโทษผู้ไม่สวมหน้ากากอนามัย ด้วยการวิดพื้น ซึ่งดีต่อสุขภาพ และได้ผลในการได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการป้องการการแพร่ระบาดของโรคด้วย
เมื่อถามถึงการสวมหน้ากากวิ่งในสวนสาธารณะตามคำสั่งของศบค.นั้น อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า การเปิดสวนสาธาณะให้ประชาชน เพราะต้องการให้ได้พักผ่อนหย่อนใจบ้าง หลังมีมาตรการฉุกเฉินมาเป็นเวลากว่า 1 เดือน การออกกำลังกายที่ดีในขณะนี้นั้น การเดินถือว่าดีที่สุด เดินแล้วก็ใส่หน้ากากอนามัยไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับการวิ่งเร็วๆ แล้วสวมหน้ากากอาจทำให้อากาศที่เข้าสู่ร่างกายไม่เพียงพอ จึงไม่แนะนำให้วิ่งโดยการสวมหน้ากากอนามัย
แต่ขอให้สังเกตว่า ในระหว่างวิ่งมีคนตามหลังในระยะถึง 10 เมตรหรือไม่ ถ้าถึงก็ไม่ควรวิ่ง เพราะจากสถานที่ที่ไม่เพียงพอ ละอองฝอยที่เกิดขึ้นจากการหายใจโดยเร็ว หรือต้องปากเป่าจากการเหนื่อยหอบๆ จะทำให้ละลองฝอยจากการหายใจกระจายไปถึงคนข้างหลังได้ ดังนั้น เมื่อไปสวนสาธารณะแล้ว อย่าวิ่งเลย แม้จะอนุญาตแล้ว แต่เมื่อไปสวนสาธารณะแล้วควรใส่หน้ากากอนามัยแล้วเดิน หากเดินมากกว่า 30 นาทีขึ้นไปก็ถือว่าได้เหงือแล้ว
