เด่นชัดยิ่งว่า กรณี “ร่างรัฐธรรมนูญ” ปลอมที่เชียงใหม่ กรณี “จดหมาย” บิดเบือนร่างรัฐธรรมนูญที่ลำปาง
จะเป็นเรื่องที่ “โอละพ่อ”
โอละพ่อเช่นเดียวกับกรณีที่มีการฉีกทำลายบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงคะแนนประชามติ หน่วยที่ 5 ภายในโรงเรียนวชิรสารศึกษา บ้านเหนือ ต.สลกบาตร อ.ขานุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร
แรกที่ปรากฏเป็น “ข่าว” ก็อึกทึก “น่ากลัว”
พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมงานโฆษกคสช.ผู้เอาการเอางานถึง กับออกมาระบุ
“เรื่องลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะไม่ใช่การทำลายระหว่างพรรคหรือบุคคล แต่เป็นเรื่องของรัฐที่เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิลงประชามติ
“จึงเชื่อได้ว่าเป็นผู้เห็นต่างจากรัฐ”
แต่แล้วจากการตรวจสอบของตำรวจและทหารผ่านภาพในกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าเป็นเด็กหญิงวัย 8 ขวบ 2 คน
ทำไปด้วยความซุกซน รู้เท่าไม่ถึงการณ์
ย้อนกลับไปยังกรณีของ “ร่างรัฐธรรมนูญ” ปลอมอันปูดขึ้นมาโดย นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษกระดับเคมบริดจ์จาก “กรธ.”
และขานรับอย่างคึกคักโดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์
ทังยังมีการขยายผลจากปฏิบัติการของ “สภ.บ้านโป่ง” ราชบุรี ด้วยการจับ 4 นักศึกษา 1 นักข่าว
ขัง ณ คุกฟรีๆ เป็นเวลา 1 คืน
ผลที่สุด พล.ต.ต.ทรงพล วัฒนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็แถลงว่า
“กรณีพบการแจกร่างรัฐธรรมนูญปลอมในพื้นที่เชียงใหม่ ตรวจสอบแล้วยืนยันว่าไม่มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงของร่างรัฐธรรมนูญ”
เด่นชัดยิ่งว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร
เมื่อการฉีกบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิลงประชามติที่กำแพงเพชรลงเอยด้วยเด็กหญิงวัย 8 ขวบ
ทำไปเพราะซุกซนและรู้เท่าไม่ถึงการณ์
เมื่อการปูดเรื่อง “ร่างรัฐธรรมนูญ” ปลอม ปรากฏว่ามิได้เป็น เรื่องปลอมแปลงอย่างที่ป่าวร้อง
หากแต่ไม่ได้เป็นการบิดเบือน
หากแต่เป็น “เอกสารแย้ง” ในทางวิชาการด้วยเหตุด้วยผล จากกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่
มีตัวมีตนคนทำ มิได้เป็นความลึกลับดำมืด
มิได้มีพรรคการเมืองหนุนหลัง มิได้มีท่อน้ำเลี้ยงที่จะต้องไปพึ่งบริการปปง.ในการตรวจสอบเส้นทางการเมือง
หลายคนจึงเริ่มรู้สึก “หวาดเสียว”
หวาดเสียวว่ากรณีจดหมายบิดเบือนเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญจำนวนร่วมหมื่นฉบับที่ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ เชียงราย จะเป็นอย่างไร หวาดเสียวแทนทหาร แทนตำรวจ แทนฝ่ายปกครอง
เพราะการฉีกบัญชีก็มาจากเด็ก ร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ปลอม