‘สมช.’ ยัน ‘บิ๊กตู่’ ไม่ได้สั่งทำโพลยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ชี้ตัวเลขติดเชื้อโควิด-19 ตัวชี้ขาด
จากกรณีให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติ รวมถึงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เตรียมทำโพลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่องผลกระทบที่เกิดจากการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ใน 2 ห้วงคือ ระยะที่ 1 เพื่อดูมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 และระยะที่ 2 คือ ปลายเดือนพฤษภาคม สอบถามเรื่องให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือยังคงไว้นั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนต่อการต่ออายุ หรือยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) ไม่ได้สั่งการ หรือมีนโยบายให้ทำโพลสำรวจความคิดเห็นในเรื่องนี้ 2.สมช.ไม่ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ทำโพลสำรวจความคิดเห็นในเรื่องการต่ออายุ หรือยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่แต่อย่างใด 3.ในการพิจารณาว่าจะต่ออายุ หรือยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินวันที่ 31 พฤษภาคมนี้หรือไม่นั้น ให้เป็นไปตามสถานการณ์ด้านสาธารณสุข สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นสำคัญ ไม่ใช่ยึดจากผลโพลและการสำรวจความคิดเห็น
เมื่อถามว่าการยกเลิกทำโพลเป็นเพราะพรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาคัดค้านและไม่เชื่อถือในการทำงานของ กอ.รมน.หรือไม่ พล.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า สมช.ไม่ได้สั่งการให้ กอ.รมน.ทำโพลตั้งแต่แรกแล้ว ส่วนการจะทำโพลอีกหรือไม่นั้นต้องดูสถานการณ์ก่อน แต่โพลก็ไม่ใช่ปัจจัยหลักในการพิจารณาเพราะต้องดูมาตรการทางสาธารณสุข และสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรค และจำนวนผู้ติดเชื้อเป็นสำคัญ และตอนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีนโยบายให้ทำโพลสำรวจความคิดเห็นในเรื่องนี้
‘พท.’ จวกทำโพลหวังคงใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อ
ขณะที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลจะมอบหมายให้ กอ.รมน.ทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนว่าจะให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ ว่า มองว่ารัฐบาลกำลังสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองในการตัดสินใจที่จะคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไป และที่จะให้ กอ.รมน.เป็นฝ่ายที่ทำโพลยิ่งเห็นชัดเจนว่าคำตอบจะออกมาเป็นอย่างไร ถามว่าทำไมรัฐบาลไม่ให้ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามเป็นคนทำโพลให้ หรือจะสอบถามประชาชนผ่านทางโซเชียลต่างๆ ก็ได้ แบบนี้น่าจะได้คำตอบที่ตรงกว่า ทั้งนี้ ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลควรยกเลิกการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วหันมาใช้ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อในการดูแลสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตามที่หลายฝ่ายเสนอ อย่างไรก็ตาม ขอตั้งข้อสังเกตว่าที่รัฐบาลอยากคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ เพราะกังวลว่าม็อบฟรอมโฮมจะออกมาเป็นแฟลชม็อบเคลื่อนไหวต่อต้านใช่หรือไม่
‘ปชป.’ แนะ 3 ข้อป้องผลโพลบิดเบี้ยว
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคและประธาน ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายกฯเตรียมทำโพลหยั่งเสียงเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ ว่าการที่นายกฯสั่งการให้ทำโพลสำรวจว่าควรคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ หรือควรยกเลิก ทำให้เห็นว่านายกฯทราบดีว่าเรื่องการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินต่อไปหรือไม่เป็นเรื่องที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากในสังคม เพราะมีทั้งผลบวกและลบในทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ดังนั้น เพื่อให้การสำรวจว่าควรคง พ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้ หรือควรยกเลิกได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน ควรดำเนินการ ดังนี้ 1.ให้ใครทำการสำรวจ การที่นายกฯสั่งการให้ กอ.รมน.ทำการสำรวจอาจไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม เพราะ กอ.รมน.เป็นหน่วยงานภาครัฐ อาจถูกมองว่ารับงานเพื่อสนองความต้องการของนายกฯเพื่อผลทางการเมือง นายกฯควรหาหน่วยงานทางวิชาการทำการสำรวจเพื่อสร้างการยอมรับ เพราะถ้าเริ่มต้นด้วยการไม่ยอมรับหน่วยงานที่ทำสำรวจแล้ว จะเกิดการไม่ยอมรับผลการสำรวจด้วย 2.เครื่องมือและวิธีการที่ใช้สำรวจคืออะไร ในการสำรวจตรวจสอบความคิดเห็นของประชาชนมีเครื่องมือทางวิชาการและวิธีการที่จะใช้หลากหลายชนิด ควรจะคิดหาเครื่องมือที่สร้างการยอมรับได้ และ 3.เนื้อหาสาระได้มาตรฐานทางวิชาการหรือไม่ อย่างไร การสำรวจความคิดเห็นที่จะได้ผลคลาดเคลื่อนน้อยที่สุดก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาของการสำรวจด้วย ถ้าเนื้อหาบิดเบี้ยว ผลที่ตามมาก็จะบิดเบี้ยวตามไปด้วย จึงขอฝากนายกฯให้พิจารณาการทำสำรวจด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ไม่มีอะไรแอบแฝงก่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับประชาชนเพื่อใช้ผลการสำรวจเป็นประโยชน์ในการทำงานสู้ภัยโควิด-19 อย่างแท้จริง
