09.00 : INDEX สัญญาณ แตกหัก พลังประชารัฐ ข่าวล่า อุตตม สาวนายน ลาออก
ข่าว นายอุตตม สาวนายน ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าสะท้อนให้เห็นถึงการขยับขับเคลื่อนอย่างสำคัญภายในพรรคพลัง ประชารัฐ
ความแหลมคมเป็นอย่างยิ่งอยู่ที่มิได้เป็นการลาออกอย่างสุกงอมของ นายอุตตม สาวนายน
เพราะหลังการประชุมครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ได้เปิดเผยการเข้าพบและสนทนากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
และยืนยันคำมั่นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะไม่มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และจะไม่มีการปรับครม.แต่อย่างใด
เป็นการยืนยันได้เพียงไม่ครบ 1 สัปดาห์ข่าวการลาออกของ นายอุตตม สาวนายน ก็ตามมาจากพรรคพลังประชารัฐ
ตรงนี้แหละคือความละเอียด ความอ่อนไหวเป็นอย่างสูง
หากจับการเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ แม้ในเบื้องต้นจะปรากฏออกมาในลักษณะ”ข่าวปล่อย” แต่ก็เป็นข่าวปล่อยอันมี พื้นฐานความเป็นจริง
อย่างน้อยที่สุดแม้จะได้รับการปฏิเสธจากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
แต่คนที่ออกมายอมรับว่ามีการเคลื่อนไหวกดดันจริงมาจากรัฐมนตรีที่เรียกว่า “กลุ่ม 4 กุมาร”ไม่ว่าจะเป็น นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์
ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากก็คือ เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มที่ได้ชื่อว่าแนบแน่นและใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
เท่ากับสะท้อนให้เห็นว่าเป็นความต้องการของกลุ่มการเมือง ภายในพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการให้กลุ่มของ นายอุตตม สาวนายน พ้นจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค
เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้าไปแทนที่
น่าสังเกตว่าการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันกลุ่มของ นายอุตตม สาวนายน เกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีคำมั่นจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ตาม
เป็นการเคลื่อนไหวบีบผ่านการเปลี่ยนแปลงจากกรรมการบริ หารภายในพรรค
เริ่มต้นจากการลาออกของ นายณัฎฐพล ทีปสุวรรณ ตามมาด้วยการลาออกของ นายสุชาติ ชมกลิ่น และที่สุดตามมาด้วยการลาออกของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
ทำให้จำนวนกรรมการบริหารที่ลาออกมีเกินกึ่งหนึ่งอันส่งผลโดยปริยายให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารทั้งชุด
นี่คือจุดแห่งความขัดแย้งอันจะนำไปสู่การแตกแยกครั้งใหญ่
