09.00 INDEX ศึกษา “อนิจจัง” แห่ง อำนาจ จาก สถานการณ์ การบินไทย
ทั้งๆที่เป็นรัฐบาล ทั้งๆที่เป็นฝ่ายกุมอำนาจรัฐ ทั้งๆที่มี พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ในมือ ทั้งๆที่อยู่ในฐานะเป็นฝ่ายกุมข้อมูลมากที่สุด
แต่ถามว่า ไม่ว่ารัฐบาล ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สา มารถกุมเส้นทางของ “ข่าว” ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดหรือไม่
ขอให้ดูกระบวนการอันเกี่ยวกับ “การบินไทย”
ขอให้ดูกระบวนการอันสะท้อนความขัดแย้ง แตกแยกและแย่งชิงอำนาจกันภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่าดำเนินไปอย่างไร เป็นไปตามความต้องการหรือไม่
ยิ่งไม่จำเป็นต้องดูทิศทางการยืดและการคงอยู่ของพรก.การ บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่าจะเป็นไปตามที่กำหนดกะ เกณฑ์อย่างไร
เมื่อไม่สามารถกุมทิศทางของข่าว เมื่อไม่สามารถกุมข้อมูลได้อย่างเป็นจริง อำนาจและการสั่งการย่อมคลอนแคลน
แท้จริงแล้ว วาระซ่อนเร้นในการประกาศและการคง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไว้อย่างยาวนานที่สุดคือ การควบคุม กำกับการทางการเมือง
ต้องการปรามบทบาทและการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงกันข้ามในทางการเมืองให้ถูกจำกัดและอยู่ในกรอบ
แต่ถามว่ากรณีของ “การบินไทย” ดำเนินมาอย่างไร กระแสคัดค้านและต่อต้านอันเกิดขึ้นอย่างอึกทึกครึกโครม โดยไม่จำเป็น ต้องผ่านกระบวนการรัฐสภา ผ่านการชุมนุม
กระนั้น ความรู้สึกนี้ก็กลายเป็นความรู้สึก “ร่วม” และก่อพลานุภาพสูงยิ่งในทางการเมือง เบื้องต้นก็สัมผัสได้เลยว่าแผนเดิมของรัฐบาลที่วางเอาไว้ก็ไม่สามารถเดินหน้าไปด้วยความราบรื่น
ไม่ว่าส่งมาจากการบินไทย ไม่ว่าส่งมาจากกระทรวงการคลัง ไม่ว่าส่งมาจากกระทรวงคมนาคม
ทำท่าว่าอาจต้องเริ่มต้นจากการล้มละลายของการบินไทย
ไม่ว่ากรณีพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไม่ว่ากรณีความขัดแย้ง แตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่ากรณี การบินไทย
สะท้อนให้เห็นอย่างเด่นชัดว่า “ปฏิกิริยา”ในทางสังคม
หากว่าสิ่งนั้นขาดเหตุผล ขาดความชอบธรรมไม่ว่ารัฐบาล ไม่ว่าผู้กุมอำนาจรัฐ หากกระทำการอย่างสวนทางกับธรรมชาติและความเป็นจริงที่ดำรงอยู่
ก็มิอาจกำกับ ควบคุมเส้นทางการดำเนินไปของแต่ละกรณีได้