ญาติวีรชนพ้อ ‘พฤษภา35’ ถูกหลงลืมทุกรัฐบาล ‘จตุพร’ จี้เยียวยาเท่าเทียม ลั่นไม่ควรมีใครตายเพราะแสดงจุดยืน ปชต.
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่อนุสรณ์สถานพฤษภาประชาธรรม สวนสันติพร ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ มีการจัดพิธีทำบุญ ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลแด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 โดยมีญาติผู้เสียชีวิตและประชาชนจำนวนหนึ่งเดินทางมารอร่วมพิธีตั้งแต่ก่อน 08.30 น. โดยมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19
ต่อมา นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เดินทางมาถึงในระยะเวลาใกล้เคียงกับนายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำนปช. โดยทั้ง 2 ทั้งเข้าพูดคุยกันถึงประเด็นอนุสาวรีย์ใหม่ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยในวันนี้มีการย้ายอัฐิผู้เสียชีวิตจากฐานอนุสาวรีย์เดิมไปฝากไว้ที่วัดชนะสงคราม จนกว่าอนุสาวรีย์ที่กำลังสร้างใหม่จะแล้วเสร็จ คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 60 วันนับจากวันนี้เนื่องจากมีผู้รับเหมาก่อสร้างเตรียมพร้อมดำเนินการ โดยอนุสาวรีย์ใหม่ตั้งอยู่ในบริเวณสวนสันติพรเช่นกัน
ในตอนหนึ่ง นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำนปช. กล่าวว่า อนุสาวรีย์วีรชนพฤษภาประชาธรรม นับจากเกิดเหตุการณ์เมื่อปี 2535 ใช้เวลาถึง 28 ปี เป็นประวัติศาสตร์ที่ผู้คนต้องจดจำ เป็นการต่อสู้ของภาคประชาชน มีทั้งคนตาย และคนสูญหาย สิ่งที่วีรชน และญาติวีรชนต่อสู้มี 3 ประเด็น ได้แก่ 1 . เรื่องกฎหมาย 2. เรื่องการสร้างอนุสาวรีย์วีรชน 3. เรื่องการเยียวยา ซึ่งตนอยากให้ใช้มาตรฐานเดียวกันกับการชุมนุมทางการเมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมของประชาชนฝ่ายใดซึ่งพวกตนก็เคยได้รับการเยียวยามาแล้ว จึงอยากให้มีความเท่าเทียม
“ผู้ได้รับบาดเจ็บล้มตายควรได้รับการเยียวยาอย่างเท่าเทียมย้อนไปจนถึง 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 พฤษภา 2535 มาถึงการชุมนุมของพันธมิตรและกปปส. ก็ตาม ทุกฝ่ายควรได้รับการเยียวยา เพราะทุกคนไม่สมควรต้องมาตายจากการแสดงจุดยืนเรื่องประชาธิปไตย” นายจตุพรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายจตุพรพูดจบ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวขึ้นในทันทีว่า กรณีเหตุการณ์พฤษภา 35 จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ เป็นเหตุการณ์ที่ถูกหลงลืมมาตลอดทุกรัฐบาล
