วันที่ 21 สืบเนื่องจากโพสต์ข้อความที่มีภาพชาวบ้าน อ.ลอง จ.แพร่ รณรงค์โหวตไม่รับร่างรัฐธรรมนูญและคำถามพ่วง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ส่งผลให้นายการัญย์ เกื้อวันชัย นายอำเภอลอง จ.แพร่ สั่งให้มีการสอบหาข้อเท็จจริง พบว่าเป็นชาวบ้านหาดผาคัน หมู่ 8 ต.ทุ่งแล้ง อ.ลอง จ.แพร่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลอง ทหารค่ายม.พัน 12 ตำรวจสันติบาล เข้าตรวจสอบจนได้ตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการโพสต์ข้อความดังกล่าวจำนวน 9 คน ซึ่งจากการสอบสวนได้นำบุคคลดังกล่าวได้แก่ 1.นายสุวรรณ สุทธนะ อายุ 59 ปี 2.นางช้อย สุทธนะ อายุ 55 ปี ภรรยานายสุวรรณ 3.นางสมจิตร ท้าวคำ อายุ 46 ปี และ4.นางสุพรรณ สุทธนะ อายุ 51 ปี มาสอบสวนพบว่า ภาพที่ถ่ายสวมใส่เสื้อแดง มาจากเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาหลังเทศกาลสงกรานต์ นางวาสนา กระหวาย ญาติกันแต่ไปทำงานที่ กทม. กลับมาบ้านจึงพากันไปเที่ยวน้ำตกแม่เกิ๋ง อ.วังชิ้น ขากลับนางวาสนาได้นำเสื้อแดงมาแจกให้และใส่พร้อมถ่ายรูปร่วมกันไว้ต่อมานางวาสนา ได้นำภาพที่ถ่ายไปให้กับนางส่องสี สุทธนะ ซึ่งเป็นญาติกันแต่มีสามีอยุ่ในประเทศญี่ปุ่นนานแล้ว นางส่องสี ได้นำภาพดังกล่าวโพสต์ในเฟซบุ๊กที่เป็นเหตุดังกล่าว ผู้ให้ถ้อยคำยืนยันว่า การโพสต์ดังกล่าวตนไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวข้องกับการโพสต์ภาพพร้อมข้อความแต่อย่างใด
ต่อมา เวลา 10.00 น. นายการันต์ เกื้อวันชัย นายอำเภอลอง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจังหวัดแพร่ ประกอบด้วยผู้แทนทหาร ตำรวจ และข้าราชการกรมการปกครอง ได้เชิญกลุ่มชาวบ้านที่ปรากฎในโพสต์ภาพและข้อความดังกล่าวไปร่วมปรับความเข้าใจ และร่วมลงนามในข้อตกลงที่จะไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอลอง ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือไปร่วมทำข้อตกลงดังกล่าว
นายการันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่าเป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือ เข้าใจผิดมากกว่าการที่จะมีอุดมการณ์ในการล้มประชามติรัฐธรรมนูญตามที่โพสต์แต่อย่างใด จึงไม่มีการดำเนินคดีแต่ก็ยังอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งการประชุมดังกล่าวดำเนินไปจน 12.00 น. ทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับ
สำหรับสถานการณ์การทำประชามติในจังหวัดแพร่ ยังคึกคักมีหน่วยงานต่างๆ นายปรพล พูตระกูล ผู้อำนวยการออกเสียง ประจำเขตออกเสียง จ.แพร่ กล่าวว่า ในจังหวัดแพร่อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมตั้งกรรมการฝ่ายต่างๆ ใน 785 หน่วยออกเสียงใน 8 อำเภอของจังหวัดแพร่ มีผู้มีสิทธิ์จำนวน 377,000 คน ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรณรงค์ให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์กันมาก ๆ ซึ่งปัญหาที่จะเกิดขึ้นทุกหน่วยลงคะแนนไม่มีความทุรกันดาน เพียงแต่อาจมีฝนตกหนักในช่วงลงคะแนนเท่านั้น ส่วนปัญหาทางการเมืองที่แบ่งออกเป็นสองฝ่าย และมีข่าวออกมารณรงค์โหวตโน นั้นถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มากมายอะไร กกต.แพร่เชื่อว่า จะมีผู้มาใช้สิทธิ์มากเช่นสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ที่มีปัญหาเป็นพื้นที่ภายใต้การควบคุมของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยและเป็นฐานใหญ่ของกลุ่ม นปช.แพร่ ซึ่งประกอบด้วย อ.ลอง และ อ.เด่นชัย อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเหล่านี้เจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่าเป็นการทำไปโดยไม่เข้าใจ จึงไม่มีการลงโทษแต่ให้มีการบันทึกข้อตกลงร่วมกันเป็นหลักฐานว่าจะไม่ทำอีก
