ขณะปั่นต้นฉบับชิ้นนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าคณะรัฐมนตรีตัดสินใจอย่างไรกับการฟื้นฟูการบินไทย
แต่มีแนวโน้มสูงยิ่งจะเลือกช่องทาง พ.ร.บ.ล้มละลาย เดินหน้าฟื้นฟูกิจการโดยศาลล้มละลาย อย่างที่ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข กำกับดูแลกระทรวงคมนาคม ต้นสังกัดการบินไทย ระบุว่าตอนนี้เหลือ “ซอยเดียว” คือกระบวนการฟื้นฟูโดยศาลเป็นผู้กำกับ เป็นทางที่ดีที่สุด โดยทุกคนต้องถอยกันบ้าง
สถานะของการบินไทยนับว่า หนักหนาสาหัสจากปัญหาเรื้อรังทั้งจากการบริหารจัดการ การเข้ามาแสวงหาประโยชน์ของคนบางกลุ่ม รวมไปถึงปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจการบินโลก
ผลลัพธ์ก็คือ ปี 2558 ขาดทุน 13,067 ล้านบาท ปี 2559 ขยับมีกำไรเล็กๆ เพียง 15 ล้านบาท ปี 2560 ขาดทุนต่ออีก 2,107 ล้านบาท ปี 2561 ขาดทุน 11,625 ล้านบาท ล่าสุดปี 2562 ขาดทุนไปอีก 12,424 ล้านบาท สรุปย้อนหลัง 5 ปี แบกขาดทุนร่วม 4 หมื่นล้านบาท
ยังไม่นับรวมภาระหนี้สินกว่า 2.4 แสนล้านบาท
ทุกคนรู้ไม่วันใดก็วันหนึ่งการบินไทยต้องมาถึงจุดนี้ เผอิญมา “ฝีแตก” ในรัฐบาลปัจจุบันเท่านั้น
กล่าวสำหรับกระบวนการฟื้นฟูการบินไทยมีความเป็นไปได้จะทำควบคู่กันไป 2 แนวทาง
หนึ่ง กระทรวงการคลังจะลดสัดส่วนการถือหุ้นในการบินไทยจากปัจจุบันกว่าร้อยละ 51 เหลือไม่เกิน
ร้อยละ 50 ทำให้สิ่้นสภาพการเป็นรัฐวิสาหกิจ มีผลต่อเนื่องไปถึงสหภาพรัฐวิสาหกิจการบินไทยต้องยุบลงไปด้วย
ตรงนี้แหละที่จะเป็นปัญหา เพราะไม่ทราบว่าสหภาพการบินไทยจะยอมรับได้หรือไม่ หรือมีความเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างไร
หนึ่ง เดินตามช่องทาง พ.ร.บ.ล้มละลาย ทราบมาว่ากระทวงคมนาคมจะเป็นผู้ยื่นคำขอฟื้นฟูต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อศาลมีคำสั่งรับคำขอฟื้นฟูกิจการแล้ว การพักชำระหนี้จะเกิดขึ้นทันทีไปจนกว่าการฟื้นฟูเสร็จเรียบร้อย
การพักการชำระหนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญหนึ่ง ให้การบินไทยดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ไม่ต้องกังวลเจ้าหนี้ฟ้องร้องเรียกชำระหนี้ เพราะไม่สามารถทำได้
จากนั้นศาลจะมีคำสั่งแต่งตั้งผู้ทำแผน และผู้บริหารกิจการ บริหารทรัพย์สินต่างๆ ของการบินไทยตามแผนฟื้นฟูกิจการ
ตรงนี้บอร์ดการบินไทยเท่ากับถูกยุบโดยปริยาย อำนาจทั้งหมดตกอยู่กับคณะผู้บริหารแผนหรือผู้บริการกิจการข้างต้น สามารถปรับเปลี่ยนผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการได้อีกด้วย
หากการฟื้นฟูกิจการไปได้ด้วยความราบรื่น การบินไทยสามารถสะสางปัญหาหนี้สิน ตัวเลขผลประกอบการกลับดีขึ้นจนมองเห็นอนาคตในธุรกิจการบินไทย ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า การฟื้นฟูกิจการเป็นผลสำเร็จ ก็จะมีคำสั่งยกเลิกการฟื้นฟูกิจการผู้บริหารการบินไทยก็จะกลับมามีอำนาจหน้าที่ในการจัดการกิจการและทรัพย์สินตามเดิมได้
ในทางกลับกันหากเกิดความขลุกขลักระหว่างฟื้นฟูกิจการไม่สามารถดำเนินไปได้ตามแผน
เพราะต้องไม่ลืมว่าการดำเนินธุรกิจการบินของการบินไทยก็มีความจำเป็นต้องใส่เงินเข้าไปหล่อเลี้ยง ขณะที่สถานะของการบินไทยไม่ใช่รัฐวิสาหกิจอีกต่อไปที่รัฐจะเข้าไปสนับสนุนได้เหมือนเดิม การเพิ่มทุนหรือ
กู้เพิ่มมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน
นั่นยังไม่รวมการแข่งของธุรกิจการบินโลกที่เข้มข้น การบินไทยเข้าไปสู้รบปรบมือไหวหรือไม่
ที่สุดหากแผนฟื้นฟูไปต่อไม่ได้ ก็ตัวใครตัวมัน เข้าสู่การ “ล้มละลาย” ของจริง