ครป.ค้านต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินฯ ชี้ กระทบเสรีภาพ หวั่นกองทัพคนตกงานไร้มาตรการรัฐรองรับ

ครป. ค้านต่ออายุ พรก.ฉุกเฉินฯ ชี้ กระทบเสรีภาพ หวั่นกองทัพคนตกงานไร้มาตรการรัฐรองรับ

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2563 ที่ห้องประชุมสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) ได้จัดประชุมคณะกรรมการและแถลงข้อเสนอภาคประชาชนต่อรัฐบาล

รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ประธาน ครป. กล่าวว่า ครป.ขอเสนอให้รัฐบาลหยุดขยาย พรก.ฉุกเฉินฯ ออกไป เนื่องจากการขยายเวลา พรก.ฉุกเฉินฯ ไม่มีความเหมาะสมและจำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันประเทศไทยควบคุมโควิดได้เป็นอย่างดี และเงื่อนไขหลักไม่ได้เกิดมาจากการใช้อำนาจในพรก.ฉุกเฉิน แต่มาจากความแข็งแกร่งของฝ่ายสาธารณสุข ทั้งจากการรักษาของแพทย์และพยาบาล การป้องกัน และความร่วมมือจากอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้านทั่วประเทศ อีกด้านหนึ่งมาจากวัฒนธรรมความร่วมมือของภาคประชาชนเป็นหลัก

การใช้ พรก.ฉุกเฉิน ในระยะยาวต่อไปจะกระทบต่อเสรีภาพประชาชน และกระทบต่อเศรษฐกิจไทย สิ่งที่ ครป.กังวลคือ รัฐจะฟื้นฟูอย่างไร นโยบายของรัฐบาลในปัจจุบันยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ซ้ำร้ายบางนโยบายยังเป็นไปเพื่อส่งเสริมกลุ่มทุนมากกว่าแทนที่จะการส่งเสริมภาคประชาชน รัฐบาลต้องเตรียมมาตรการรองรับในระยะยาว เนื่องจากมาตรการทางเศรษฐกิจยังไม่มีศักยภาพเพียงพอที่จะรองรับกองทัพคนตกงานในอนาคต

Advertisement

“สำหรับพัฒนาการทางการเมือง ยังมีแนวโน้มว่ารัฐบาลจะเสพติดอำนาจเด็ดขาด มีแนวโน้มไปที่การรวมศูนย์อำนาจและจะสร้างความขัดแย้งได้ในอนาคต การพัฒนาประชาธิปไตยต้องกระจายอำนาจไปยังพื้นที่ต่างๆ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง ทางออกจากความขัดแย้ง ต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย จะต้องมีการเตรียมการ โดยให้คนจำนวนหนึ่งในรัฐบาลที่ว่างงานอยู่เตรียมการขับเคลื่อนรัฐธรรมนูญตั้งแต่ตอนนี้”

นายกษิต ภิรมย์ ที่ปรึกษา ครป. กล่าวว่า สาธารณสุขของไทยได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก และความร่วมมือของคนไทยทำให้การแก้ไขปัญหาโควิดเป็นไปด้วยดี การยืดเวลาการใช้อำนาจตาม พรก.ฉุกเฉินฯ จึงไม่จำเป็นอีกต่อไป นอกจากนี้ การใช้อำนาจพิเศษในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้องแจ้งภาคีกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ผ่านเลขาธิการสหประชาชาติอย่างเป็นระบบ แต่ไม่ได้ยินว่ารัฐบาลดำเนินการแล้ว และการใช้อำนาจต้องมีกลไกการตรวจสอบและถ่วงดุลภายใน ขอตั้งข้อสังเกตว่า การแก้ไขปัญหาการบินไทย ไม่เกี่ยวกับปัญหาโควิด ดังนั้นรัฐบาลอย่าลักไก่ทำในอำนาจพิเศษ ควรให้ระบบรัฐสภาทำงานและมีการตรวจสอบปัญหาการคอร์รัปชันที่ผ่านมาในหลายรัฐบาล

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image