ปชป. ห่วงพ.ร.ก.เงินกู้ ไร้รายละเอียด-ที่มา เตือนกระสุนมีจำกัด ทุกนัดต้องเข้าเป้า

“เกียรติ” อัด คกก.กลั่นกรองเงินกู้ 1 ล้านๆเละ ซัดชงเองกินเอง โดยสภาพัฒน์ฯ ขัดหลักธรรมาภิบาล ซัด ก.คลัง อ้างวิกฤตไม่คาดการณ์ศก.ไทย ถาม ถ้าอีก 2ปีไม่จบ ไม่ต้องทำงานเลยหรือ?

เมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่รัฐสภา บรรยากาศการอภิปรายพ.ร.ก.กู้เงิน แก้วิกฤตโควิด นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า เราเป็นห่วงพ.ร.ก.เงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท เพราะกู้เยอะแต่รายละเอียดน้อย เพราะไม่มีรายละเอียดแหล่งที่มาเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ในมาตราของพ.ร.ก.เงินกู้ บอกว่า ต้องระบุให้ชัด แต่รัฐบาลยังไม่ระบุเลยว่า จะกู้วิธีไหน ซึ่งจากการ คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2020 จะเห็นว่า สำนักวิเคราะห์ของไทยคิดบวกเกินไป ภาคเอกชน บอกว่า ติดลบ ร้อยละ 8-11 ขณะที่ไอเอ็มเอฟ ระบุว่า ติดลบใกล้ร้อยละ 7 แต่ที่น่าฉงนคือกระทรวงการคลัง กลับแจ้งงดการแถลงหน้าตาเฉย โดยให้เหตุผลว่า จะแถลงเมื่อไทยเข้าสู่สภาวะปกติ จึงอยากถามว่า ถ้าอีก 2 ปียังไม่ปกติท่านจะหยุดทำงานใช่หรือไม่ ขณะที่คาดการณ์ซื้อขายสินค้าทั่วโลก ติดลบประมาณร้อยละ 20 และคาดหวังนักท่องเที่ยวจีน จะยังไม่กลับมา ดังนั้น ถ้าจะทำให้ทุกอย่างตรงเป้าต้องปรับคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ล่าสุด นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า จะใช้แนวทางสากล

“อยากบอกว่า คณะกรรมการกลั่นกรองฯฟื้นฟู กับเยียวยา ต้องเป็นคนละคนกัน ความชำนาญไม่เหมือนกัน การไปดูฟื้นฟูอยากให้มีกรรรมการกลั่นกรองฯกลุ่มฟื้นฟูโดยเฉพาะ เข้าไปมีส่วนร่วม ไม่ใช่รัฐบาลเป็นคุณพ่อรู้ดี เพราะเรามีธุรกิจ 3 กลุ่มที่ดูแลไม่เหมือนกัน โดยมีการจ้างงานประชาชนหลายสิบล้านคน แต่เมื่อดูไปในแนวทางฟื้นฟู ในพ.ร.ก. 1 ล้านล้านบาท เสนอโดยคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์ฯ) และพิจารณาโดยสภาพัฒน์ฯ และกระทรวงการคลัง ขณะที่คนทำรายงานความก้าวหน้าก็คือ สภาพัฒน์ฯอย่างนี้หลักธรรมาภิบาลผมว่าไม่ใช่” นายเกียรติ กล่าว

นายเกียรติ กล่าวต่อว่า ในส่วนพ.ร.ก.เพื่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก วงเงิน แสนล้านก็ไปไม่ถึงบุคคลเป้าหมาย โดยการจ่ายเงินผ่านธนาคารออมสิน และให้เฉพาะลูกค้าชั้นดี ทั้งที่เขาไม่ต้องการสินเชื่อ โดยพ.ร.ก.ฉบับนี้ ไม่มีการคัดกรองฯ แต่ให้ธนาคารพิจารณากันเอง ตนได้ไปสอบถามผู้จัดการสาขาธนาคาร ได้รับว่า เงินไม่ถึงธนาคารสาขา เพราะสำนักงานใหญ่ธนาคารจัดการเองทั้งหมด ถือว่า น่าเป็นห่วง จึงต้องมีกรรมการกลั่นกรองฯเพิ่มขึ้น มิเช่นนั้นจะพลาดเป้าหมด นอกจากนี้ยังขอให้ปรับการตรวจสอบจะมา พูดว่า โปร่งใสเฉยๆไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับการจัดการ จำเป็นการเปิดเผยข้อมูลแบบเรียลไทม์ รวมทั้งการเอาเงินทั้งหมดไปใช้ตรงกับเป้ามีความจำเป็นจริงๆ และสุดท้ายขอเสนอให้ใช้กฎเหล็ก 3 ข้อผ่านวิกฤติ คือ 1.แก้วิกฤตต้องคิดลบ พร้อมสยบทุกปัญหา 2 .กระสุนมีจำกัด ทุกนัดต้องเข้าเป้า และ3. คอร์รัปชั่นต้องป้องกันไม่ใช่ลั่นว่า ไม่มี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image