09.00 INDEX ตัวเลข ว่างงาน 8.4 ล้านคน เขย่า สถานการณ์ “ฉุกเฉิน”
ปัจจัยอะไรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะผ่อนคลายมาตร การ “เข้ม” จากพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินลงเป็นลำดับ
อาจเป็นเพราะความสำเร็จในเรื่องการสกัด ขัดขวางการแพร่ระบาดของไวรัสในระยะหลัง
จากประสิทธิภาพของบุคลากรด้าน “สาธารณสุข”
อาจเป็นเพราะกระแสคัดค้าน ต่อต้านที่แผ่กว้างออกไปเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การคัดค้านและต่อต้านจากภาคธุรกิจไม่ว่าจะเป็นสหพัฒน์หรือเดอะมอลล์
กระนั้น ผลสะเทือนที่หนักหนาสาหัสอย่างยิ่ง คือตัวเลขอันมาจาก “สภาพัฒน์ฯ” ล่าสุดในเรื่องแนวโน้มการตกงานที่ทะยานไปยัง 8.4 ล้านคน
แม้ตัวเลขการตกงานจะเป็น 8.4 ไม่ใช่ 10 ล้านคนอย่างที่ภาคเอกชนได้เคยคาดหมายเอาไว้ แต่ก็น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
ความเป็นจริงที่ไม่ว่ารัฐบาล ไม่ว่ากองทัพจะต้องยอมรับก็คือ ผลสะเทือนจากมาตรการ”เข้ม”จากพรก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น
มิได้เป็นเรื่องในทาง “สุขภาพ” มิได้เป็นเรื่องในทาง “สาธารณสุข” แต่อย่างใด
หากแต่เป็นเรื่องในทาง “การเมือง” ล้วน-ล้วน
ทั้งเป้าหมายทางด้าน “ความมั่นคง” เป้าหมายในทาง “การเมือง” นี้ยังกลายเป็นผลร้ายในทาง “เศรษฐกิจ” อย่างเห็นได้ชัดในห้วงแห่งเดือนเมษายน พฤษภาคม
เด่นชัดตำตา ณ บริเวณหน้ากระทรวงการคลัง เด่นชัดตำรา ณ ทุกจุดที่มือไม้ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แตะเข้าไปถึง
แล้ว “สภาความมั่นคงแห่งชาติ” ยังยืนกระต่ายขาเดียวผ่าน “ศบค.” ผ่าน “ครม.” กระทั่งก่อให้เกิดความไม่พอใจใหญ่หลวงและกว้างขวางอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน
เมื่อประสบเข้ากับตัวเลขคนว่างงานกว่า 8.4 ล้านคนเข้ามาอีกก็เกิดอาการนะจังงัง
ทุกอย่างล้วนล่าช้าเหมือนที่ประชาชนรู้สึกต่อโครงการ”เราไม่ทิ้งกัน”ของกระทรวงการคลัง ต่อการจ่ายเงินประกันสังคมของกระทรวงแรงงาน
เป็นความล่าช้าเพราะไม่ได้คิด ไม่ได้เตรียมการในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยามาก่อน
ปล่อยทุกอย่างให้อยู่ในมือของ”รัฐราชการรวมศูนย์”