ก้าวไกล ชงพลิกวิกฤตโควิด เปิดตัวร่างพ.ร.บ.สุราก้าวหน้า เตรียมเสนอเข้าสภาฯ ทลายทุนผูกขาด เพิ่มศักยภาพสินค้าเกษตร
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่รัฐสภา เกียกกาย ส.ส.พรรคก้าวไกล นำโดย นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล แถลงเปิดตัวร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ว่า พรรคก้าวหน้าได้จัดทำร่าง แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต เพื่อให้มีการปลดล็อกการผลิตสุรารายย่อย โดยมีการแก้ไขมาตรา 153 ของ พ.ร.บ. ภาษีสรรพสามิต โดยมีการแก้ไข 3 ส่วน คือ 1. เพิ่มคำว่า “การค้า” ต่อจากข้อความเดิมที่ว่า “ ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุรา” เป็น “ผู้ใดประสงค์จะผลิตสุราเพื่อการค้า” 2.การเพิ่มบทห้ามกำหนดเกณฑ์ กำหนดกำลังการผลิต จำนวนคนงาน เงินทุนเพื่อปลดล็อกทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กเข้ามาอยู่ในธุรกิจสุรา เปิดโอกาส สร้างศักยภาพทางการแข่งขันเพื่อให้มีการคลายล็อกในกฎกระทรวง การอนุญาตผลิตสุรา 2560 ที่เคยกำหนดขั้นต่ำในการทำสุราประเภทต่างๆ ไว้ อาทิ เช่น การขออนุญาตผลิตเบียร์ที่ต้องมีขั้นต่ำ 10 ล้านลิตร การผลิตสุราขาวที่จำกัดไว้ไม่เกิน 5 แรงม้า และ 7 แรงคน การปรุงแต่งสุรา และการบ่มสุรา และ 3.การอนุญาตให้ทำสุราเพื่อบริโภคเองภายในครัวเรือน โดยการตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของสุราเพื่อความปลอดภัยที่ดีจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
นายเท่าพิภพ กล่าวว่า การเสนอกฎหมายฉบับนี้ พรรคจะขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมทำลายกำแพงใหญ่ของนายทุน ที่กีดขวางผลประโยชน์ของประชาชนตัวเล็กๆ โดยพ.ร.บ.สุราก้าวหน้าฉบับพรรคก้าวไกล ที่ตนและทีมงานพรรคได้ร่างขึ้นมานั้น มีการจุดประสงค์ในการปลดล็อกศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแปรรูปผลผลิตทางเกษตรอันเป็นในกลไกพัฒนาเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากวิกฤตโควิด-19 โดยมีแนวทางแก้ปัญหาอยู่ 2 แนวทาง 1.อัดฉีดเงิน ตามที่ได้มีการประชุมพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน อยู่ในเวลานี้ 2.การแก้ข้อบังคับต่างๆ ซึ่งเป็นวิธีการที่พรรคกำลังเสนอให้มีการแก้กฎหมาย คลายข้อบังคับอันเป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพหารายได้ของประชาชนเพื่อเป็นฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก โดยที่เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพราะวันนี้มูลค่าการตลาดของสุราและเบียร์สูงถึง 3 แสนล้านบาท ซึ่งกระจุกตัวอยู่กับผู้ผลิตรายใหญ่ และมีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่เป็นผู้ประกอบการรายย่อย ดังนั้นการปลดล็อกครั้งนี้จะเพิ่มมูลค่าส่วนแบ่งตลอดรายย่อยทันทีร้อยละ 100 และจากการคาดการณ์ภายใน 10 ปี หลังจากการปลดล็อกตาม พ.ร.บ. ฉบับนี้ ตลาดของคราฟท์เบียร์รายย่อยจะเติบโตเป็นร้อยละ 5 ของตลาดเบียร์ จึงหวังว่าส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลจะร่วมสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นี้ หากท่านมาจากประชาชน ต้องไม่ขัดขวางสิ่งที่จะเป็นผลประโยชน์ของประชาชนจริงๆ