สส.พปชร. เดินหน้าหนุนกู้เงินเยียวยาโควิด-ย้ำต้องดูแลแพทย์พยาบาล

วันที่ 31 พ.ค. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายพ.ร.ก.เงินกู้วงเงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อเยียวยาปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ โดย นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.เขต 1จังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่า การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 เป็นภัยร้ายที่คุกคามประเทศ แต่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการบริหารจัดการท่ามกลางวิกฤต ของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ที่มีการบูรณาการการทำงานโดยเฉพาะการตั้ง ศบค. ขึ้นมา และยังมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เป็นที่ชื่นชมจากนานาประเทศ

ขณะเดียวกันยังได้เห็นว่าน่าจะนำเงินภายใต้ พรก.กู้เงิน มาให้ความช่วยเหลือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. แพทย์ประจำตำบล หมออนามัย เพราะกลุ่มคนเหล่านี้น่าจะได้ปูนบำเหน็จ หลังสถานการณ์คลี่คลาย เนื่องจากที่ผ่านมาได้ปฎิบัติหน้าที่อย่างหนักในการต่อสู้กับโควิด-19 ทั้งนี้การปูนบำเหน็ด หรือเยียวยา อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่เสนอให้มีการพัฒนาองค์ความรู้ให้เป็นมืออาชีพ ในการเผชิญกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

นายรงค์ กล่าวอีกว่า พรก.กู้ โดยเฉพาะงบสนับสนุนแผนงานรักษา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท 4 แผน คือแผนพัฒนาเพื่อความยั่งยืน // เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจชุมชน //การกระตุ้นการบริโภค และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งการพัฒนาความยั่งยืนนั้นอยากให้รัฐบาลเข้าไปดูแลเกษตรกรโดยเฉพาะเกษตรกรที่ทำแปลงย่อย จะทำอย่างไรเพื่อนำไปสู่การทำเกษตรกรแปลงใหญ่ รวมถึงเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน และมังคุด ทำอย่างไรให้ขายได้มีราคา เนื่องจากในพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ปลูกผลไม้ รวมถึงการเข้าไปดูแลการท่องเทียวชุมชน พร้อมต่อยอดและพัฒนา ภูมิปัญญาของชาวบ้าน

นอกจากนี้การพัฒนาโครงสร้าพื้นฐานไม่ใช่แค่การสร้างถนน สะพาน แต่อยากให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม ที่จะเยียวยาครอบครัว รวมถึงการพัฒนาโรงเรียน ให้มีความเข้มแข็งได้อย่างไร

Advertisement

น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายขอบคุณนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้มีมาตรการเยียวยาให้กับเกษตรกร ซึ่งรวมถึงชาวประมงด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาหากมีการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร กลุ่มชาวประมงมักจะไม่ได้รับการช่วยเหลือ และครั้งนี้ถือว่ารัฐบาลให้ความสำคัญเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวประมง พร้อมกันนี้ยังฝากไปยังรัฐบาลในการจัดสรรงบประมาณในการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันภาคธุรกิจ ให้กลุ่มชาวประมง ทั้งประมงพื้นบ้าน และประมงพาณิชย์ ที่นอกจากจะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการทำงานแล้ว ยังสามารถที่จะส่งออกได้ พร้อมกับเชื่อว่าหาก พรก.เราไม่ทิ้งกันออกมาแล้ว ครม.ให้ความสำคัญและนำไปเยียวยา อีกส่วนนำไปกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับภาคประชาชน เชื่อว่าการทำงานในภาคเกษตรกรในพืชผล และประมง จะสามารถที่จะนำเม็ดเงินมาหมุนในประเทศได้เป็นอย่างดี และมีประสิทธิภาพ

“ในการเยียวยาเงิน 5 พันบาทของรัฐบาล ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่ฝากไปถึงรัฐบาลหากจะมีการเยียวยาในอนาคตเกิดขึ้นอีก และภาครัฐจัดให้ลงทะเบียนผ่านระบบ AI นั้น ยังสามารถให้ผู้นำท้องถิ่นเข้าไปช่วยเหลือประชาชนควบคู่กันไปได้ด้วย เนื่องจากยังประชาชนบางส่วนยังไม่มีความรู้เรื่องของการลงทะเบียน ทั้งนี้จะทำให้การลงทะเบียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น” น.ส.ไพลิน ระบุ

น.ส.ไพลิน ยังอภิปรายถึงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะงานด้านสาธารณสุข โดยขอขอบคุณทีมแพทย์ พยาบาล ที่ทำงานอย่างเต็มกำลัง ทุ่มเทสรรพกำลังทุกอย่างที่จะช่วยให้วิกฤตการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วย รวมถึง อสม. ตำรวจกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่เข้ามาช่วยกันดูแล ตั้งจุดคัดกรอง จนสามารถลดการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้ นอกจากนี้แม้จะเกิดวิกฤต แต่ประเทศยังได้เห็นถึงความรัก ความสมัคคีของคนไทย พร้อมกับ ชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่เสียสละให้กับประเทศชาติ และทำให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้

Advertisement

ด้านนางทัศนียา รัตนเศรษฐ ส.ส. นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายชี้แจงถึง พรก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับ เกิดจากภาวะที่ประเทศวิกฤตและฉุกเฉิน ในเรื่องของโรคภัยที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งฉุกเฉินในเรื่องของบุคลากรมีจำนวนจำกัด ฉุกเฉินด้วยงบประมาณที่จะนำมาต่อสู้กับโรคร้าย รวมถึงการเยียวยาให้กับประชาชน ดังนั้นจึงขอสนับสนุน พรก.กู้เงินทั้ง 3 ฉบับนี้อย่างเต็มที่

ทั้งนี้ยังชี้แจงการกู้เงิน มีความชัดเจนในกรอบวงเงินที่จะนำไปใช้เพื่อการแพทย์ สาธารณสุข เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงการฟื้นฟูประเทศ และที่สำคัญการใช้เงินยังเป็นการใช้ที่รอบคอบ โดยผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จนทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์

ส่วนการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ด้วยการออกมาตรการต่างๆนั้น ยังได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน จนเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศ และให้ความน่าเชื่อถือ ชื่นชมว่าประเทศไทยมีการแพทย์ที่ดี มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันและปฏิเสธไม่ได้ว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉินของรัฐบาล เพราะ ได้รวบรวมกฎหมายที่กระจัดกระจายอยู่ตามกระทรวงต่างๆ นำมาบูรณาการใช้ด้วยกัน จึงทำให้การสั่งการและการตัดสินใจเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ขณะเดียวกัน พรก.ฉุกเฉิน ยังเป็นการกำหนดมาตรฐานกลางให้จังหวัดต่างๆได้ปฏิบัติไปในทิศทางเดียวกัน และยังทำให้ผู้ปฏิบัติงานได้มั่นใจในการทำงาน

อย่างไรก็ตามการแก้ไขปัญหาของประเทศ ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังมีนักรบเสื้อกาวน์ คือ หมอ แพทย์ พยาบาล รวมถึง อสม. ที่เป็นมดงานในการกลั่นกรองในพื้นที่ทำงานอย่างเต็มที่ มีนักรบธุรกิจ ที่นายกได้เชิญมาให้มีส่วนร่วมในการดูแลฟื้นฟูประเทศ รับฟังข้อเสนอแนะด้วยตัวเอง ซึ่งทุกหน่วยงานให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ แต่ยังเหลือนักรบทางการเมือง ที่ยังมะรุมมะตุ้มกันอยู่ โดยเชื่อว่าหากนักรบการเมือง มีความจริงใจในการช่วยกันฟื้นฟูดูแลประเทศจะชนะปัญหาอย่างแน่นอน

นางทัศนียา ยังแสดงความเป็นห่วงและฝากไปยังรัฐบาลว่าการกู้เงินในครั้งนี้ถือว่าเป็นเงินที่มาจากประชาชน ดังนั้นจึงอยากให้ได้กระจายถึงประชาชนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะบุคคลที่ทำงาน อสม . กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจบ้าน ซึ่งเปรียบเหมือนหน้าด่านในการคุ้มครองรักษาท้องถิ่น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้คนเหล่านี้ได้ดูแลและช่วยเหลือประชาชน และงานรัฐบาลต่อไปอีกรวมถึงขอให้รัฐบาลนำเม็ดเงินในการกู้ครั้งนี้ ไปดูแลในเรื่องของภัยพิบัติ โดยเฉพาะภัยแล้งที่กำลังเกิดขึ้นในภาคอีสานอย่างหนัก โดยอยากให้จัดสรรเงินในการเร่งบูรณาการบริหารจัดการน้ำ พร้อมอยากจะฝากเป็นข้อคิดเกี่ยวกับเงินเยียวยาของรัฐบาล ที่จะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม ที่ทำให้ประชาชนต้องมาร้องทุกข์ ทำให้ประชาชนต้องมากินยาฆ่าตัวตาย ทำให้ประชาชนต้องหลั่งน้ำตา ซึ่งจะเกิดจากความผิดพลาดอะไรก็ตาม ก็ขอให้รัฐบาลนำไปปรับปรุงแก้ไขในการเยียวยาครั้งต่อไป โดยอย่าให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image