ศึก “พปชร.” ปะทุ ส.ส.ตบเท้าหนุน “อุตตม” นั่งหน.ต่อ

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ต้องจับตาความเคลื่อนไหวในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังจาก เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่รัฐสภา มีการรวมตัวของส.ส.พรรค พปชร.ประมาณ 60 คน นัดหารือกันที่ชั้น 4 ห้อง 419 อาคารรัฐสภา อาทิ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพปชร. และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ โดยรัฐมนตรีและ ส.ส.กลุ่มนี้มีความเห็นตรงกันว่าต้องการสนับสนุนให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ เป็นเลขาธิการพรรค พปชร.ต่อไป เพื่อทำหน้าที่ในการดูแลงบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงินช่วยพี่น้องประชาชนแก้ปัญหา

แหล่งข่าวจากพรรค พปชร.กล่าวถึงความขัดแย้งภายในพรรคว่า ในวงหารือมีการพูดถึงปัญหารอยร้าวภายในพรรค กลุ่มส.ส.มีความห่วงใยสถานการณ์ในพรรคมีการช่วงชิงตำแหน่งกัน จนประชาชนที่เฝ้าดูรู้สึกไม่พอใจ กลุ่มส.ส.ที่เป็นตัวแทนจากประชาชนทุกภูมิภาคต้องรู้สึกอึดอัด เพราะต้องตอบคำถามเหล่านี้กับประชาชน จึงขอโอกาสนี้ให้กำลังใจนายอุตตม นายสนธิรัตน์ และ ร.อ.ธรรมนัส นอกจากนี้ ในวงพูดคุย มีการสอบถามถึงบทบาทของนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ว่าที่ผ่านมาการทำงานของประธานวิปถูกต้องหรือไม่อย่างไร เพราะทำหน้าที่ประสานงานกับพรรคร่วมอย่างไรถึงมีเสียงแตกออกมา

ด้านนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่มี 60 ส.ส.ของพรรค พปชร. ให้กำลังใจนายอุตตมเพื่อให้ทำหน้าที่ในการดูแลงบประมาณและเงินกู้เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 และสนับสนุนให้ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า อยากถามไปถึงทั้งนายอุตตม นายสนธิรัตน์ และ ร.อ.ธรรมนัส ว่า รู้จักหน้าที่ของตัวเอง และให้เกียรติพรรคหรือไม่ เพราะทางพรรคได้นัดเวลาสถานที่ เพื่อประชุมอย่างชัดเจน มีการแจ้งต่อสมาชิกทุกคนให้ทราบล่วงหน้าแล้ว แต่กลับไม่ให้ความสนใจกิจกรรมของพรรค หรือว่าทั้ง 3 ท่านมีความคิดจะไปตั้งพรรคใหม่ตามที่มีข่าวออกมา จึงไม่ใส่ใจกิจกรรมของพรรค พปชร. เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอถามไปถึงนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ว่ายังสมควรจะดำรงตำแหน่งหัวหน้าและเลขาธิการพรรคต่อไปหรือไม่ เพราะไม่รู้ว่าการกระทำเช่นนี้ทำไปเพื่อสร้างความขัดแย้งภายในพรรค หวังผลให้มีความแตกแยกหรือไม่ คิดว่าทั้ง 3 คนควรจะหยุดบิดเบือน สร้างความแตกแยกได้แล้ว และส.ส.ที่ไปร่วมมีจำนวนเพียงแค่ 26 คน แต่ที่กล่าวอ้างว่ามีถึง 60 คนนั้น คิดว่าเป็นการพูดให้ดูมีจำนวนมาก เปรียบเสมือนการนำ ส.ส.ไปชุบแป้งทอด ให้ดูใหญ่และเยอะขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image