“จาตุรนต์” ติงนายกฯ ดุ ส.ส.เหมือนลูกน้องใต้บังคับบัญชา ไม่เข้าใจสภา

นายจาตุรนต์ ฉายแสง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง (แฟ้มภาพ)
“จาตุรนต์” ติงนายกฯ ดุ ส.ส.เหมือนลูกน้องใต้บังคับบัญชา ไม่เข้าใจสภา

สภาผู้แทนราษฎร- มื่อวันที่ 1 มิถุนายน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ว่า ฟังการอภิปรายในสภาในหลายวันมานี้จะเห็นได้ว่า สภาผู้แทนราษฎรยังเป็นเวทีที่ทำให้มีการนำเสนอข้อมูลความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้หลายๆ ฝ่ายมองเห็นปัญหาในภาพรวมมากขึ้น และเป็นการตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาลซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการทุจริต หรือการใช้งบประมาณอย่างทิ้งๆ ขว้างๆ ได้ดีพอสมควร

“แต่ฟังการชี้แจงของนายกรัฐมนตรีแล้ว จะเห็นว่าการชี้แจงของนายกฯ มีลักษณะเป็นการอบรมสั่งสอน ดุว่า ส.ส.ทั้งสภาฯ เหมือนพูดกับลูกน้องใต้บังคับบัญชา ทั้งๆ ที่ตัวนายกฯ เองไม่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่สภาฯ อภิปรายกันตลอดหลายวันที่ผ่านมา การชี้แจงของนายกฯ ผิวเผินกว่าการพูดคุยในสภากาแฟทั่วๆ ไปเสียอีก กล่าวคือไม่สามารถตอบคำถามสำคัญหลายๆ คำถาม เช่น การเยียวยาที่ล่าช้าไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้ประชาชนนับสิบล้านต้องอยู่กันไปโดยไม่มีรายได้เป็นเดือนๆ ระบบข้อมูล บิ๊กดาต้ายังล้าสมัย การเอื้อทุนใหญ่มากกว่ารายเล็กรายน้อย การสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจและทำให้ทำมาค้าขายกันไม่ได้ทั้งประเทศ คนต้องตกงานกันจำนวนมาก ประชาชนเดือดร้อนเกินจำเป็น และการจะใช้งบฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าและไม่สามารถแสดงรายละเอียดต่อสภาได้ เป็นต้น” นายจาตุรนต์ กล่าว

นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า นายกฯกล่าวหาผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ พ.ร.ก.และแผนงานของรัฐบาลว่า เป็นการขัดขวางการทำงานของรัฐบาล ทำให้รัฐบาลเดินหน้าไปไม่ได้ ทั้งๆ ที่ที่ผ่านมาการวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายต่างๆ ก่อนหน้านี้ รวมทั้งการพูดในสภาฯ เป็นสิ่งที่ก้าวหน้ากว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่ และทำให้รัฐบาลไม่สามารถปล่อยปละละเลยให้ปัญหาลุกลามบานปลาย หรือเพิกเฉยละเลยต่อความเดือดร้อนของประชาชน

“ที่น่าเป็นห่วงมากๆ คือ ถึงแม้ ส.ส.ทั้งหลายจะได้สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่อาจต้องการการเยียวยาเพิ่มเติม การที่จะต้องเร่งผ่อนคลายให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้เพื่อให้ประชาชนเลี้ยงตัวเองได้ แต่นายกฯ กลับไม่สามารถแสดงความเข้าใจว่าจะจัดความสมดุลระหว่างการใช้มาตรการทางสาธารณสุขกับการผ่อนคลายทางเศรษฐกิจอย่างไร รวมทั้งไม่สามารถชี้ให้เห็นทิศทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระยะต่อไปได้ การอ้างว่าให้เสนอมาจากพื้นที่เพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบ” อดีตรองนายกฯ กล่าว

Advertisement

นอกจากนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า นายกฯ ยังไม่แสดงให้เห็นว่าจะเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบป้องกันการทุจริตในการใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลนี้ได้อย่างไร ไม่กระตือรือร้นที่จะให้สภาตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาติดตามการใช้งบประมาณ ส่วนการอ้างองค์กรที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบนั้นไม่สามารถทำให้ประชาชนไว้วางใจได้ เนื่องจากที่ผ่านมา คสช.และรัฐบาล คสช.รวมทั้งรัฐบาลปัจจุบันได้แทรกแซงการทำงานขององค์กรเหล่านั้นอย่างโจ่งแจ้งมาตลอด

“จากการอภิปรายของฝ่ายค้านมีข้อมูลที่น่าตกใจและน่าเชื่อว่า จะเป็นความจริงคือเรื่องข่าวการจัดสรรโควต้างบประมาณให้ส.ส. คนละ 80 ล้านบาท ซึ่งถ้าไม่มีกระบวนการตรวจสอบที่ดี เรื่องนี้ก็จะกลายเป็นจริงได้ เรื่องที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดอีกเรื่องหนึ่งก็คือ จากการอธิบายของนายกฯประกอบกับการชี้แจงของรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมายแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลตั้งใจที่จะใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินตลอดไปตราบใดที่ยังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในโลกนี้ทั้งๆ ที่การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีผลเสียมากกว่าผลดีอย่างเทียบกันไม่ได้เลย ความคิดเช่นนี้ เป็นอันตรายต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอย่างยิ่ง และจะทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นไปอีกยาวนาน” นายจาตุรนต์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image