“18 กรรมการบริหารพปชร.” ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง กก.บห.อย่างเป็นทางการแล้ว “ไพบูลย์” เชื่อ “ประวิตร” เป็นเสาหลักของพรรค ชี้ การดำเนินการทุกอย่างวันนี้เป็นไปตามข้อบังคับ ยัน ไม่ใช่การมัดมือชกใคร
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 มิถุนายน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพปชร. แถลงว่า ตนในฐานะรองหัวกน้าพรรคพปชร. ได้รับหนังสือลาออกจากกรรมการบริหารพรรค 18 ท่าน จึงได้ทำหนังสือเรียนไปยังหัวหน้าพรรคพปชร. ว่ามีกรรมการบริหารพรรคประสงค์ลาออก ซึ่งการลาออกมีผลตั้งแต่วันนี้ (1 มิถุนายน) เป็นต้นไป เมื่อลาออกจำนวน 18 ท่าน เป็นเหตุให้ตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคว่างลงเกินกึ่งหนึ่งมีผลให้กรรมการบริหารพรรคพปชร.ทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่ง โดยเป็นไปตามข้อบังคับของพรรคข้อที่ 15 นอกจากนี้ ตามข้อบังคับพรรคพปชร. 15 วรรค 3 ระบุให้ต้องเลือกตั้งคณะกรรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายใน 45 วัน นับจากวันที่คณะกรรมการบริหารพรรคพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ส่วนวรรค 4 ระบุให้กรรมการบริหารพรรคชุดเก่าอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีกรรมการบริหารชุดใหม่ กล่าวคือ ต้องรักษาการไปก่อน ดังนั้น จึงขอให้หัวหน้าพรรคชุดรักษาการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคโดยเร็ว เพื่อเร่งกำหนดวันจัดประชุมใหญ่สามัญ เพื่อเลืกอตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคพปชร.ชุดใหม่
เมื่อถามว่า จะมีผลต่อไปการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนคิดว่า กรรมการบริหารพรรคท่านที่ลาออกประสงค์ให้เป็นไปตามข้อบังคับ ซึ่งเป็นเรื่องภายในพรรคพปชร. ซึ่งการดำเนินการของพรรคการเมืองก็มีการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้เป็นประจำอยู่แล้ว มีพรรคพปชร.ต่างหากที่ไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงในลักษณะนี้ เพราะเราเป็นพรรคการเมืองใหม่ ส.ส.มาจากหลายๆกลุ่ม ก็มีความจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้พรรคได้ตอบสนองความต้องการของส.ส.ที่เข้ามา โดยการเปลี่ยนแปลงใดๆนั้นต้องเริ่มต้นจากกรรมการบริหารพรรค เพราะเป็นหลักในการบริหารพรรค วันนี้เป็นวันเริ่มต้น
เมื่อถามว่า เป็นไปได้ไหมที่ชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่อยากกล่าวถึงในเรื่องนั้น วันนี้เป็นเพียงการแถลงข่าวการลาออกของทั้ง 18 ท่าน ซึ่งส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคทั้งหมดพ้นไปด้วยเท่านั้น ตนขอกล่าวถึงแค่ข้อบังคับเท่านั้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราต้องจัดประชุมใหญ่กันทุกเดือนเมษายน แต่นี่ก็ได้เลื่อนมาอยู่แล้ว ดังนั้น ก็จะเป็นโอกาสที่จะได้ดำเนินการตามข้อบังคับข้อที่ 15 นี้
เมื่อถามว่า การลาออกของกรรมการบริหารพรรค 18 คนนี้เหมือนเป็นการบีบกรรมการบริหารพรรคอีกฝั่งหนึ่ง นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่หรอก เป็นไปตามข้อบังคับที่เมื่อกรรมการบริหารลาออกเกินกึ่งหนึ่งก็ส่งผลให้ทั้งชุดพ้นไปหมด ทั้งนี้ พรรคการเมืองต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรค คิดว่าไม่มีปญหาอะไรที่จะทำให้เกิดความเสียหายตามที่คาดการณ์กันไว้อย่างนั้น แต่ตนมั่นใจว่า ถ้าได้เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ จะทำให้พรรคพปชร.เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม และช่วยเหลือประชาชนให้ดีขึ้น
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ได้มีการแจ้งประธานยุทธศาสตร์พรรคให้รับทราบแล้วใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านก็ได้ปฏิบัติตามข้อบังคับพรรคอยู่แล้ว และท่านรับทราบอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว เพราะหนังสือลาออกก็จะต้องส่งไปตามระบบ
เมื่อถามถึงคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่อยากแสดงความเห็นส่วนตัว แต่อยากให้เป็นความเห็นของมวลสมาชิกพรรค
เมื่อถามย้ำว่า มีคนได้เสนอมาบ้างหรือยังว่าต้องการให้ใครเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนว่ายังไม่ถึงขั้นตอนนั้น ให้เป็นไปตามข้อบังคับทีละขั้นดีกว่า
เมื่อถามว่า ถ้าให้พล.อ.ประวิตร มาเป็นหัวหน้าพรรคเลยจะทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น และเป็นหนึ่งเดียวกันหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรเป็นผู้ที่อาวุโสที่เป็นเสาหลักของพรรคอยู่แล้ว ส่วนเรื่องการจะเลือกกรรมการบริหารพรรคยังต้องรอการประชุมใหญ่ก่อน แล้วดูว่าสมาชิกพรรค และส.ส.ในพรรคจะเลือกกันอย่างไร ซึ่งตนมั่นใจในส.ส. และสมาชิกพปชร.ว่าทุกอย่างที่จะทำก็ทำเพื่อประโยชน์ของพรรค และประชาชนทั้งนั้น
เมื่อถามว่า สรุปแล้วการยื่นลาออกของกรรมการบริหาร 18 คนครั้งนี้ ไม่ใช่การยึดตำแหน่งหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ทุกอย่างไม่ใช่การมัดมือชก เพราะทุกอย่างเป็นการดำเนินการตามข้อบังคับพรรค ที่อยากฝากคือ ช่วยติดตามดูหน่อยว่าจะมีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตาม กรรมการบริหารพรรคแต่ละท่านมีเอกสิทธิ์ถ้าท่านเห็นว่าสมควรที่จะต้องลาออกเพื่อให้กรรมการบริหารพรรคพ้นไปทั้งคณะตนก็ไปก้าวล่วงไม่ได้ ซึ่งตนเองก็พ้นไปด้วย พรรคอื่นเขาก็ปลี่ยนกันอุตลุตไป ไม่เห็นจะถาม
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ 18 คน มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้หรือไม่ หรือมาเพิ่งจุดประเด็นเร็วๆนี้ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบบางคำถาม เพราะเป็นการไปก้าวล่วง ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับทุกอย่างที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ส่วนตัวนายไพบูลย์ถ้าพล.อ.ประวิตร จะมาเป็นหัวหน้าพรรค โอเคหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ความเห็นส่วนตัว ตนชื่นชมท่านอยู่แล้ว ต้องย้ำกว่าความเห็นส่วนตัวนะ ตนว่าในพรรคมีเอกภาพอยู่แล้ว ทุกคนที่เป็นส.ส.ล้วนแล้วแต่ชื่นชม และศรัทธาในตัวพล.อ.ประวิตรอยู่แล้ว พรรคเรามีหนึ่งเดียว แต่ส่วนที่สื่อไปแยกย่อยอะไรก็สุดแล้วแต่ เพราะเราบางวันในคนเดียวกันยังคิดไม่เหมือนกันเลย สำหรับเรื่องนี้ขอให้ตามกันเป็นขั้นๆ ซึ่งถ้าประชุมแล้วตนน่าจะตอบคำถามได้มากกว่านี้
ทั้งนี้ สำหรับรายชื่อกรรมการบริหารพรรค ที่ยื่นลาออก 18 คน ประกอบด้วย 1.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2.นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3.นายสุพล ฟองงาม 4.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา 5.นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 6.นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร 7.นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ 8.นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส 9.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 10.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 11.นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. 12. นายสกลธี ภัททิยกุล 13.นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ 14. นายสุรชาติ ศรีบุษกร ส.ส.พิจิตร 15.นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง 16.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 17.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ18.นายพงษ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ
