‘ยุทธพงศ์’ ข้องใจตั้งส.ส.สอบตก นั่งกมธ.งบฯ โควต้าพท. ‘อนุดิษฐ์’ แจงตั้งตามตัวแทนภาคที่ส่งมา

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา มีมติเห็นชอบรับหลักการร่างพ.ร.บ.โอนงบประมาณ พ.ศ. … พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญฯ จำนวน 49 คน เพื่อพิจารณาในวาระ 2 เป็นเวลา 3 วัน ทั้งนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทย(พท.) ได้รับการจัดสรรโควต้ากมธ.ฯ จำนวน 10 คน โดยมีการเสนอชื่อทั้งส.ส.และอดีตผู้สมัครส.ส.ร่วมเป็นกมธ.ฯ ชุดดังกล่าว

รายงายข่าวแจ้งว่า ในกลุ่มไลน์ของส.ส.พรรคพท. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคพท. ได้ส่งข้อความสอบถาม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. และเลขาธิการพรรคพท. ระบุว่า “ผมในฐานะที่เป็น ส.ส.มหาสารคาม (สอบได้)และรองหัวหน้าพรรคพท. คือ เวลาฯ ตั้งกมธ.วิสามัญที่เกี่ยวกับงบฯต่างๆ ผมขอถามว่าพวกส.ส.สอบได้ที่ประชาชนเลือกและชนะเลือกตั้งมา ไม่มีความรู้และความสามารถพอ ที่จะเป็นกมธ.วิสามัญเกี่ยวกับงบฯได้บ้างหรือ คือ ถ้าเป็นส.ส.สอบได้ แล้วเป็นกมธ.วิสามัญพิจารณางบฯไม่ได้ ผมกลัวว่าเลือกตั้งครั้งต่อไปพรรคพท.จะมีโรคระบาดเหมือนโรคโควิดเกิดขึ้น คือ พากันไปเป็นส.ส.สอบตก กันเยอะๆ แล้วพรรคจะเป็นอย่างไร ขณะเดียวกันการตั้งกมธ.วิสามัญฯวันนี้ไม่ได้มีการประชุมส.ส.พรรค และไม่ได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) เพราะผมเป็นรองหัวหน้าพรรค ถ้ามีประชุมฯจริง ผมต้องได้รับแจ้ง ท่านเลขาฯช่วยกรุณาฯชี้แจงด้วยครับ

ขณะที่น.อ.อนุดิษฐ์ ตอบผ่านกลุ่มไลน์ถึงนายยุทธพงศ์ ระบุว่า “เรียนท่านยุทธพงศ์ การตั้งกรรมาธิการพิจารณาร่างพ.ร.บ.โอนงบฯ พรรคเพื่อไทยได้สิทธิ์ทั้งสิ้น 10 คน ในครั้งนี้มีการตั้งตามที่แต่ละภาคส่งชื่อมา อีสาน 5 ท่าน เหนือ 1 ท่าน กลาง 1 ท่าน กทม. 1 ท่าน และส่วนกลาง 2 ท่าน กรรมาธิการในสัดส่วนของภาคเป็น ส.ส.สอบได้ทั้งหมดครับ ส่วนโควต้ากลางไม่มีท่านใดลงสมัครรับเลือกตั้งครับ สำหรับภาคอีสานมีการนัดประชุมเพื่อกำหนดตัวท่านที่จะมาทำหน้าที่ในเวลา 13.00 น.ครับ จึงเรียนมาเพื่อทราบ”

จากนั้นนายยุทธพงศ์ ได้ส่งไลน์สอบถามเลขาธิการพรรคอีกครั้ง ระบุว่า “ผมในฐานะที่เป็นส.ส.สอบได้ ของพรรคพท. และยื่นชื่อขออภิปรายฯไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาฯ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอยู่ในห้องประชุมสภาฯ ตลอดเวลา เพราะไม่อาจทราบได้ว่าประธานสภาฯจะเลือกชื่อ ให้อภิปรายช่วงเวลาใด เพราะมีส.ส.ทั้งจาก ฝั่งฝ่ายค้านและฝั่งฝ่ายรัฐบาล ทยอยขอถอนชื่ออภิปรายออกตลอดเวลา ผมมีความจำเป็นต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา และเห็นว่าการตั้งกมธ.วิสามัญฯต่างๆต้องโปร่งใส ผ่านที่ประชุมใหญ่และเป็นมติฯ ของที่ประชุมส.ส.พรรคฯ ไม่ใช่มาทำกันแบบลับๆล่อๆ ไม่เช่นนั้นพรรคพท. สื่อมวลชนและประชาชนถึงบอกว่า พรรคตกต่ำลงเรื่อยๆ ส่วนที่เลขาฯบอกว่า ไม่ได้เป็นสอบตก แล้วมาจากที่ไหน อย่างไร และผมขอถามท่านเลขาฯว่า ทำไมวันนี้มีการประชุมสภาฯและมีกฎหมายที่สำคัญมากๆ เข้าสภาฯ คือ พ.ร.บ.โอนงบฯ ปี63 จำนวน 88,000 ล้านบาทเข้าพิจารณา แล้วทำไมพรรค พท.ถึงสั่งให้งดการประชุมพรรค ทั้งๆที่ประธานวิปฝ่ายค้าน ได้นัดหมายให้มีการประชุมพรรค ในวันอังคารที่ 2 พฤษภาคม 63 ไปเรียบร้อยแล้ว”
อย่างไรก็ตามในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี2564 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ทางพรรคพท.จะตั้งคนนอกที่ไม่ได้เป็นส.ส.เข้ามาเป็น กมธ.พิจารณาร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวอีกหรือไม่และเรื่องนี้คงต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้ง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image