สนท. คุกเข่า วางดอกไม้ กลางสกายวอล์ก ทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิม

เปิดถ้อยคำ ‘เพื่อนผู้ลี้ภัย’ อาจารย์มธ. ย้ำ วันหนึ่งเราอาจขาดใจเหมือน ‘วันเฉลิม’ ร่วมวางดอกไม้ กลางสกายวอล์ก ทวงความเป็นธรรม 

สืบเนื่องจากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักกิจกรรมและผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่อาศัยอยูในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งถูกคนร้ายอุ้มหายบริเวณหน้าคอนโด เมื่อเวลาประมาณ 17.45 น. ของวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ขณะเดินลงมาซื้ออาหารหน้าคอนโด นั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) จัดกิจกรรม “ทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิมและผู้ลี้ภัยทุกคน #saveวันเฉลิม” โดยมีการนำภาพผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่สูญหายจำนวน 10 รูป มาตั้ง พร้อมเตรียมดอกไม้มาร่วมแสดงออกทางสัญลักษณ์ เพื่อทวงความเป็นธรรมให้ผู้ลี้ภัยทางการเมือง บริเวณสกายวอล์ก หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ระหว่างดำเนินกิจกรรมเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาปิดลำโพงของกลุ่ม สนท. ผู้ร่วมกิจกรรมจึงร่วมกันตะโกน “เซฟวันเฉลิม” ก่อนดำเนินกิจกรรมต่อ
โดย ผศ.ดร.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี วิทยาลัยสหวิทยาการ ม.ธรรมศาสตร์ ได้ฝากข้อความผ่านตัวแทนนักศึกษา ความว่า

“วันเฉลิม เขาไม่ใช่วีรบุรุษ เขาไม่ใช่ผู้เสียสละ เขาคือคนธรรมดาเหมือนพวกเรา เหมือนเพื่อนของเรา เหมือนญาติเรา และครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเราก็คงมีประสบการณ์ที่ไม่ตัวเราเอง ก็ญาติ ก็เพื่อน หรือคนรักที่จะประสบกับความไม่ยุติธรรมของรัฐ อาจเจ็บปวดต่างกัน แต่คงมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ เรารู้แต่ว่าเราทำอะไรไม่ได้ หากไม่รู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามใหญ่โตเกินไป พวกเราตัวเล็กและไร้อำนาจเกินไป แต่ก็ยังไม่น่าเศร้าเท่าเรารู้สึกเสมอว่า เราอยู่ลำพัง และไม่มีใครเข้าใจความเจ็บปวดของเรา ครั้งหนึ่งวันเฉลิมก็คงเหมือนเรา เหมือนลูกๆ ของเราที่มีความฝันและความหวัง มีความโหยหาและปราถนาโลกที่ดีกว่านี้ ก่อนที่เราจะเหนื่อยล้าและบอกว่า มันเป็นไปไม่ได้

Advertisement

เรื่องของวันเฉลิม บางคนเศร้า บางคนจินตนาการว่ามันเป็นเรื่องที่ห่างไกลกับเรา แต่ว่าเราผู้ถูกกดขี่ทั้งหลาย แรงงานที่เสียแขนในเครื่องจักร เกษตรกรเสียที่ดินเพราะหนี้ เมล็ดพันธุ์และปุ๋ย นักศึกษาเสียสถานภาพเพราะการไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม พวกเราล้วนคือผู้ที่ถูกกดขี่ เราถูกปล้นทรัพยากร ความฝัน ความหวัง เหมือนที่วันเฉลิมหายใจไม่ออก เหมือนที่เราในโลกนี้ถูกปล้นชิงทรัพยากร อำนาจ เสรีภาพ และความฝัน วันหนึ่งเราก็อาจจะขาดใจเหมือนเขา วันนี้เราต้องต่อสู้ ยืนยันถึงความอยุติธรรม ทั้งเรา และวันเฉลิมไม่ได้อยู่เพียงลำพัง”

จากนั้น น.ส.สมศรี บุญนำ อ่านถ้อยความที่ผู้ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา ฝากถึงประชาชนทุกคนในวันนี้ ความว่า
“ต้าร์กับพี่รู้จักกันตั้งแต่ช่วงก่อนรัฐประหาร เราต่างแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อมูล และพยายามหาทางไม่ให้เกิดเหตุยึดอำนาจ แต่เมื่อเกิดรัฐประหาร จนต้าต้องหนีออกจากหลังบ้าน และต้องเดินทางออกนอกประเทศ ต้าร์ก็ส่งข้อมูลอัพเดตตลอดจนกระทั่งอยู่ปลอดภัยในประเทศกัมพูชา ที่จริงทุกครั้งที่ต้าร์จะมีภัย ต้าร์จะรู้ตัวอยู่ตลอดและคอยระวังตัว พี่เชื่อว่าครั้งนี้ก็เช่นกัน มีหลายสเตตัสที่ต้าพยายามบอกทุกคนว่า ภัยกำลังจะมาถึงตัวต้าร์ ที่จริงการต่อสู้กับเผด็จการที่ต้าทำในไทยนั้นมีทั้งเปิดเผยและปิดทองหลังพระ ต้าร์ไม่ต้องการเครดิตหรือชื่อเสียงอะไรเลย ต้าร์แค่รู้สึกว่า รับไม่ได้กับความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ถึงแม้ต้าร์จะลี้ภัย และไม่ได้อยู่ในประเทสไทยกว่า 6 ปีแล้วก็ตาม ตอนที่พี่เดินทางออกจากประเทศไทยมาที่อเมริกา ต้าร์เป็นคนแรกที่รับทราบว่าพี่กำลังจะทำเรื่องลี้ภัย ต้าร์หาทางช่วยพี่ทุกอย่าง จนกระทั่งสามารถประสานงานทนายความมาช่วยเหลือจนพี่สามารถทำเรื่องยื่นขอลี้ภัยได้โดยไม่ต้องเสียค่าทนายแม้แต่บาทเดียว วันนี้การต่อสู้ในฐานะผู้ลี้ภัยของต้าร์ทำให้ต้าร์ตกอยู่ในอันตราย พี่ได้แต่หวังว่าอำนาจเลวร้ายใดๆ ก็ตามที่พยายามทำร้ายต้าร์จงพ่ายแพ้ต่อความตั้งใจที่ดีที่ต้าร์มีต่อประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ ทุกครั้งที่เราสื่อสารกัน ไม่ว่าจะโทร หรือส่งข้อความ เรามักจะเอ่ยคำหนึ่งอยู่เสมอ คือคำว่า คิดถึง และวันนี้พี่คิดถึงแกมากกว่าทุกที ขอให้แกปลอดภัยนะน้องรัก บันทึกไว้ในวันที่นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ถูกเผด็จการอุ้มหายไปจากที่พักในประเทศกัมพูชา”
ณัฏฐิกา วรธันยวิชญ์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา

น.ส.สมศรี ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ระบอบนี้ทำให้คนไม่เป็นคน นอกจากเหยียบย่ำให้เราเป็นฝุ่นผงในอาณาจักรของเขาแล้ว เขายังทำให้เราเป็นฝุ่นผงในโลกแห่งความเป็นจริง กี่คนแล้วที่หายตัวไปเพียงเพราะเขาต้องการเสรีภาพ เสรีภาพไม่ใช่สำหรับตัวเขาเอง แต่สำหรับเพื่อนร่วมชาติของเขา แม้กระทั่งสำหรับคนที่เกลียดพวกเขา สาปแช่งให้พวกเขาตาย พวกเขาไม่เคยทำร้ายใครให้ต้องตาย พวกเขาแค่มีความฝัน ฝันว่าบ้านเกิดเมืองนอนของเขาจะดีกว่านี้ เขารักและหวงแหนแผ่นดินเกิดของเขาไม่น้อยกว่าใคร หลายปีที่ผ่านมาเราต้องทนเห็นข่าวคนถูกอุ้มหายครั้งแล้วครั้งเล่า นี่เป็นอีกครั้งที่เราได้แต่นั่งมองและไม่สามารถทำอะไรได้ ทำไมเขาต้องหายตัวไป เขาเป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคมมาทั้งชีวิต เขาเป็นแค่ผู้ชายช่างฝันคนหนึ่งที่อยากเห็นอะไรๆ ในประเทศนี้ดีขึ้น เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่มีครอบครัว มีเพื่อน มีคนที่รัก ชีวิตปกติของเขาต้องหายไปตั้งแต่รัฐประหาร เขาต้องหนีจากบ้านเกิดเมืองนอนในความผิดอุปโลกที่รัฐปั้นแต่งขึ้นมาเพื่อไล่ล่าเขา เขาต้องการแค่ความปลอดภัยในชีวิต แต่กี่ครั้งที่ระบอบนี้ทำให้คนไม่เป็นคน ทำให้คนมีชีวิตหลายคนแล้วต้องหายตัวไป ทำเรื่องไม่ปกติกลายเป็นเรื่องปกติ ทำให้คนกลายเป็นฝุ่น ทั้งนี้ ในโลกเสมือนจริง และในโลกแห่งความเป็นจริง”

จากนั้น น.ส.จุฑาทิพย์ สิริขันธ์ ประธานสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) กล่าวว่า
“เพื่อนของพี่ต้าร์บอกว่า ‘เพื่อนผมตายแล้ว’” ก่อนผู้ร่วมกิจกรรมจะยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา 30 วินาที โดย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ แพนกวิน นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และกลุ่ม สนท. ได้นั่งคุกเข่าโดยระบุว่า เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณของวันเฉลิม จากนั้นมีการร่วมวางดอกไม้เพื่อไว้อาลัยให้กับวันเฉลิมและผู้เสียชีวิตจากการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image