เครือข่ายน.ศ. ชี้ ผลงานเด่น ส.ว.คือหนุนอำนาจรัฐประหารให้คงอยู่ ไม่คุ้มงบเฉียดหมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน เวทีแสวงหาฉันทามติเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศไทย จัดเสวนาในหัวข้อ “ส.ว.ไทย อย่างไรต่อดี ?” ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ เพจ New Consensus Thailand โดยมี นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกวุฒิสภา นายปิยบุตร แสงกนกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า และ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า และ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ตัวแทน เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษา (คนป.) ร่วมเสวนา

ในตอนหนึ่ง น.ส.ภัสราวลี กล่าวถึงบทบาทของ ส.ว.ว่า ต้องย้อนไปถึงตอนที่ตนยังไม่มีความสนใจเรื่องการเมือง แม้จะมีโอกาสศึกษาวิชาสังคม ตอนมัธยมต้นและมัธยมปลายบ้างก็ตาม แต่การรับรู้ถึงบทบาทและหน้าที่ของวุฒิสภาแทบไม่มี และเชื่อว่าเพื่อนหลายคนก็ไม่ทราบว่า ส.ว.ทำหน้าที่อะไร เมื่อกรอบความรับรู้ขยายขึ้นจึงมีมุมมองใหม่ๆ และเริ่มศึกษา พบว่าหน้าที่ของ ส.ว.คือการกลั่นกรองและตรวจสอบกฎหมาย หรืองานที่มาจากสภาผูแทนราษฎรก่อนจะบังคับใช้ สมัยก่อนเข้าใจได้ว่าเหตุใดจึงต้องมี ส.ว. แต่ปัจจุบันควรจะเรียนรู้จากอดีตว่าการมีอยู่ของส.ว.ค่อนข้างไปในทางเป็นเครื่องมือของอำนาจรัฐประหาร มากกว่าเครื่องมือขับเคลื่อนประเทศเพื่อประชาชน จึงมองว่า ส.ส.ที่มาจากประชาชนมีความสามารถ มีศักยภาพและการศึกษามากพอจะบริหารประเทศได้ อาจไม่ต้องพึ่ง ส.ว. เพราะบริบทเปลี่ยนไปแล้ว เชื่อว่าบุคลากรของเรามีความสามารถมากพอในการบริหารประเทศได้

“หากโยงถึงเรื่องแพลตฟอร์มของ ส.ว. 250 คน อาจเคยเห็นมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ปี 2521 ที่มีการรัฐประหาร นำโดย พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ที่แต่งตั้ง ส.ว.ให้แต่งตั้งตนกลับมาอีก เป็นแพลตฟอร์มที่โบราณมาก ชัดเจนว่าแพลตฟอร์มนี้ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดให้กับประชาชน แต่เป็นเพียงเครื่องมือใช้รวบอำนาจของกลุ่มคนที่อยากได้อำนาจเท่านั้น ซึ่งหากพูดถึง รัฐธรรมนูญปี 2560 กับ ปี 2521 ผู้ร่างคือคนเดียวกัน คือคุณมีชัย ฤชุพันธุ์ ซึ่งชัดเจนมากว่า ทุกครั้งที่มีการรัฐประหารจะเลือกคนที่สามารถสร้างแพลตฟอร์มที่กำหนดอำนาจได้เพื่อให้เหมาะสมกับการปกครองของเขา ณ เวลานั้น เป็นแพลตฟอร์มโบราณที่ถูกหยิบยกขึ้นมาโดยคนหัวโบราณที่อยากจะยึดครองอำนาจไว้เพื่อกลุ่มตนเพียงกลุ่มเดียว” น.ส.ภัสราวลีกล่าว

น.ส.ภัสราวลี กล่าวต่อว่า ส.ว.ในตำแหน่ง สำหรับตน งงมากว่ามีไว้เพื่ออะไร เพราะทำหน้าที่ควบ 2 งาน อีกอย่างหนึ่งเป็นข้าราชการประจำ เช่น ผบ.เหล่าทัพ รับเงิน 2 ทาง ด้วยหน้าที่ที่มีอยู่จึงควรจะต้องมีการแยกอำนาจอย่างชัดเจน รวมกันไม่ได้ ไม่มีความโปร่งใสที่จะให้ ผบ.เหล่าทัพมาอยูในส่วนบริหาร
ส่วนเรื่องผลงานของ ส.ว.สิ่งที่โดดเด่นมากคือ การหนุนอำนาจให้การรัฐประหารคงอยู่ ไม่เห็นผลงานใดที่ทำเพื่อประชาชน เห็นเพียงการยกมือเพื่อเลือกนายกฯ ซึ่งไม่คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไปเกือบหมื่นล้าน สามารถใช้ประโยชนได้มาก อย่างน้อยก็เยียวยาพี่น้องเรื่องโควิด-19 ได้อีกหลายคน อีกทั้ง พฤติการณ์ของ ส.ว.ชุดนี้ยิ่งชัดไปอีกว่า ไม่คุ้มค่า

Advertisement

“ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่เป็นนิวโวเตอร์ รู้สึกสิ้นหวังสุดๆ การที่มีนักศึกษาออกมาเพราะเราต้องการเห็นอนาคตที่ดีขึ้น เพราะเราต้องอยู่ในประเทศนี้ และสร้างอนาคตในประเทศนี้ไปอีกนาน” น.ส.ภัสราวลีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image