วิโรจน์ ชี้ปัญหา พปชร. เกิดจากความบิดเบี้ยวของรธน. เย้ยกลุ่ม4กุมารเหมือนทองที่เริ่มลอก
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน นายวิโรจน์ ลักขณอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (กก.) กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ความเห็นส่วนตัวตนคิดว่า มีความพยายามปรับเปลี่ยนตัว นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และรักษาการณ์หัวหน้าพรรค พปชร. รวมถึงนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและรักษาการณ์เลขาธิการพรรค ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือเรื่องของพรรค และการทำงานในกระทรวง
โดยเรื่องของพรรคพปชร. เป็นระบบการเมืองเก่า หัวหน้าและเลขาธิการพรรค จะต้องเป็นผู้ประสานงานกับคนในพรรคและคนนอกพรรค รวมทั้งดูแลส.ส.ในพรรค แต่ที่ผ่านมาเราจะเห็นมีข่าวหลุด ไลน์หลุดจากส.ส.ในพรรคพปชร. ที่ไม่ได้รับการดูแล ไม่มีงบประมาณช่วยประชาชนในพื้นที่ จนเกิดการกดดัน และการลาออกของกรรมการบริหารพรรค 18 คน เราจะเห็นได้ว่า พรรคพปชร.เป็นการรวมกลุ่มของหลายกลุ่ม ที่มีการต่อรองผลประโยชน์ จากความบิดเบี้ยวของรัฐธรรมนูญจึงทำให้เกิดความไม่เป็นเนื้อเดียวกัน ตนเชื่อว่านายอุตตมและนายสนธิรัตน์คงไม่ได้อยู่ตำแหน่งเดิมในพรรคอีกแล้ว
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเมืองภาพใหญ่ กลุ่ม 4 กุมาร ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายรัฐมนตรีเป็นแกนนำ จะเห็นได้ว่าหน้าที่หลักคือการทำนโยบายด้านเศรษฐกิจให้รัฐบาล แต่ถามว่าวันนี้ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเราเห็นได้ว่า นโยบายต่างๆ ล้มเหลว หลายโครงการเป็นแนวคิดแบบโอลสคูล คือ เน้นเมกะโปรเจค หวังให้ทุนใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาลงทุนอย่างเดียว แต่โลกวันนี้ทำแบบนั้นอย่างเดียวไม่ได้แล้ว ต้องมีการผสมผสานที่ดี
ดังนั้นกลุ่ม 4 กุมารจึงเหมือนทองที่เริ่มลอก หรือของที่ประชาชนไม่ซื้อแล้ว และที่ผ่านมา โครงการซิมช็อปใช้หรืออีกหลายโครงการ ของนายอุตตม ประสบความสำเร็จหรือทำให้เงินหมุนเวียนได้จริงหรือไม่ อย่าเอาโควิดมาเป็นแพะ เพราะความเชื่อมั่นของประเทศตกต่ำอย่างต่อเนื่องมานานแล้ว เราเอามีดแทงตัวเองมากี่แผล พอเจอกระสุนจากโควิดเลยยิ่งไปกันใหญ่
