ผู้เขียน | ปราปต์ บุนปาน |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : เรือนร่างทางการเมืองของ“พลังประชารัฐ” : โดย ปราปต์ บุนปาน
การพยายามแยกนายกรัฐมนตรีออกจากนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งและพรรคการเมือง
แยกทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลออกจาก ส.ส.
แยกการพัฒนาประเทศ-ทำงานเพื่อบ้านเมือง ออกจากการเล่นการเมืองแบบน้ำเน่า
ล้วนเป็นฐานคิดหลักๆ ที่ส่งผลให้หลายคนมองกระบวนการความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ ณ ห้วงเวลาปัจจุบัน ว่าเป็นเรื่องผิดแปลก มีเสียมากกว่าดี มืดมากกว่าสว่าง และสกปรกมากกว่าสะอาด
ในมุมมองดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจเป็นตัวละครที่กำลังลอยตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง-เกมการแย่งชิงอำนาจในพรรคพลังประชารัฐได้สำเร็จ
ขณะที่บทบาทของกลุ่ม “สี่กุมาร” หรือทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ก็ย่อมมีลักษณะเป็น “ผู้ถูกกระทำ” ซึ่งถูกกลั่นแกล้งเบียดขับจากกลุ่มก้อนอื่นๆ ในพรรคเดียวกัน
แต่หากมองกันอย่างสมจริง
บรรดานักการเมืองร้อยพ่อพันแม่ในพรรคพลังประชารัฐ ล้วนถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ขาดไม่ได้และเป็นเครื่องมือยืนยันความชอบธรรมของ “รัฐบาลประยุทธ์ภายใต้เสื้อคลุมประชาธิปไตย”
ณ ปี 2563 “รัฐบาลประยุทธ์” ก็คือ “พรรคพลังประชารัฐ”
“พรรคพลังประชารัฐ” ที่อาจมีนักการเมือง ซึ่งสังคมไม่ค่อยนิยมชมชอบสักเท่าไหร่หรือกระทั่งรู้สึกคลางแคลงใจด้วย เช่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ ปารีณา ไกรคุปต์
แต่รัฐบาลก็ไม่สามารถทิ้งขว้างหรือวางตัวออกห่างจากนักเลือกตั้งในพรรคพลังประชารัฐ
สถานภาพของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงมีความสำคัญ
เพราะ “บิ๊กป้อม” เป็นทั้งตัวแทนของ “3 ป.” และเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ไม่กี่รายในรัฐบาลที่สามารถแสวงหาความยอมรับจาก ส.ส. (หลากกลุ่มหลายก๊ก) ส่วนใหญ่ภายในพรรคพลังประชารัฐได้
กระแสข่าว ส.ส.พลังประชารัฐจำนวนมากพร้อมเทเสียงสนับสนุน พล.อ. ประวิตร ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ยิ่งขับเน้นให้สังคมตระหนักว่า “พี่ใหญ่ 3 ป.” คือ “คนของความเป็นจริง” ที่ทั้งเล่นการเมือง ดีลกับนักการเมือง และต้องข้องเกี่ยวกับพรรคการเมือง
ดังนั้น แม้ผู้คนในสังคมไทย (แม้กระทั่งที่ชื่นชอบและส่งเสียงเชียร์ “บิ๊กตู่”) จะไม่ค่อยเชื่อมั่นเชื่อถือในตัว “บิ๊กป้อม” สักเท่าไหร่
ทว่ารัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐก็จำเป็นต้องพึ่งพาบารมีและโครงข่ายสายสัมพันธ์ของนายทหารเก่ารายนี้
เพราะ “บิ๊กป้อม” เป็นตัวตนอีกด้านที่แยกไม่ขาดจาก “บิ๊กตู่”
เช่นเดียวกับที่ “นายกฯประยุทธ์” “3 ป. บูรพาพยัคฆ์” พรรคพลังประชารัฐและรัฐบาล (รวมถึงพรรคร่วมฯ 250 ส.ว. กองทัพ ตลอดจนองค์กรอิสระ-เครือข่ายรัฐราชการอื่นๆ) ต่างเป็นองคาพยพของเรือนร่างทางการเมืองเดียวกัน
ถ้าเรือนร่างดังกล่าวจะมีความเข้มแข็งและทรงพลังยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ก็เป็นเพราะองคาพยพทุกส่วนหนุนเสริมซึ่งกันและกัน
แต่หากเรือนร่างนี้จะพังทลายลงในอนาคต องคาพยพแต่ละส่วนก็ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบของตนเองได้เช่นกัน
ปราปต์ บุนปาน