พี่สาว ‘ต้าร์ วันเฉลิม’ ซึ้งใจคนไทยไม่ทอดทิ้ง เผย 6 ปีก่อน เคยถามน้อง ‘หนีทำไม’

Wanchalearm Satsaksit
พี่สาว ‘วันเฉลิม’ ซึ้งใจคนไทยไม่ทอดทิ้ง 6 ปีก่อน เคยถาม น้อง ‘หนีทำไม’

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน จากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองหลังไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ถูกพาตัวขึ้นรถหายตัวอย่างลึกลับขณะแวะซื้อของหน้าอาคารที่พักในช่วงเย็นของวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทั่งเกิดกระแสติดแฮชแท็ก#savewanchalearm รวมถึงการออกแถลงการณ์ของกลุ่มต่างๆ และการจัดกิจกรรมเรียกร้องความยุติธรรมบริเวณสกายวอล์กหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์พี่สาว ย้อนเล่าเรื่องราวชีวิตของวันเฉลิมว่า ทางครอบครัวของตนไม่เกี่ยวข้องการเมือง ไม่มีใครไปวุ่นวายการเมือง ไม่รู้ว่าน้องชายไปสนใจการเมืองแบบไหนไม่ทราบจริงๆ ไม่มีข้อมูล แต่รู้ว่าชอบเรื่องการเมือง และคิดต่าง

“ตอนเรียนมัธยมโรงเรียนเบญจะมะมหาราช อุบลราชธานี ก็เป็นประธานนักเรียน เป็นนักกิจกรรม พอเข้ากรุงเทพฯ เรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง หาเงินเรียนเอง ไปทำงานด้านสังคม ทำงานให้ สสส. และมูลนิธิต่างๆ อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนขี้เล่น มนุษยสัมพันธ์ดี คุยได้กับทุกคน เป็นคนน่ารัก ยังเคยถามว่า วันที่กระโดดตึกหนีจากชั้น 2 นั้น บ้าหรือเปล่า มีเป้ใบเดียวกับพาสปอร์ต เงินติดตัวไม่กี่บาท และเป็นคนตัวเล็ก โนเนมมาก จะหนีทำไม น้องชายบอกว่าไม่รู้ แต่คนอื่นหนี เขาก็หนี แค่นั้นเอง แต่พอไปแล้ว ก็ต้องไปให้สุด ต้องหนีไปเรื่อยๆ มีคนถามว่า ไม่อยากให้น้องกลับมาหรือ ส่วนตัวขอตอบตรงๆว่า ถ้ากลับมาได้ก็กลับ ถ้ากลับมาไม่ได้ก็ทำธุรกิจอยู่ที่นั่น ถ้ากลับมาแล้วไม่ปลอดภัย มาติดคุก อยู่ต่างประเทศดีกว่า ตนคิดแค่นี้ในฐานะพี่สาว”

“ในครอบครัวมี 5 คน คือคุณแม่ และมีน้องอีก 2 คนถัดจากวันเฉลิม คุณพ่อเสียไปแล้ว เรากับน้องอายุห่างกัน 9 ปี ใกล้ชิดกันมาก เมื่อก่อนก็เคยอยู่ด้วยกัน กินนอนด้วยกันตอนมาจากอุบลฯ มาอยู่กรุงเทพฯ ตอนเด็กๆก็เลี้ยงกันมา ยิ่ง 2-3 ปีหลัง ยิ่งใกล้ชิดมาก เพราะโทรคุยกันทุกวัน ทุกเรื่อง เราเองก็ปรึกษาเขา ว่าเจอเรื่องอะไร วันนี้ไปทำงานมาเป็นอย่างไรบ้าง เขาก็บอกว่าควรทำอย่างไร คุยกันตลอดเวลา จนวันที่เกิดเรื่องก็ยังติดสายอยู่กับเขา เพราะเขาเพิ่งประชุมเสร็จ คุยกันว่าจบแล้วนะ เดี๋ยวรอผลสำรวจแล้วพี่ไปจัดงานต่อเรื่องธุรกิจ” นางสาวสิตานันกล่าว

Advertisement

นางสาวสิตานันกล่าวว่า กรณีตำรวจ ไปถามว่าวันเฉลิมอยู่ไหม กลับมาบ้านหรือเปล่า ซึ่งตนและคุณแม่มองว่าเป็นการมาติดตามคนหนีคดีตามปกติมากกว่า ส่วนจะเชื่อมโยงกับการพาตัวน้องชายครั้งนี้หรือไม่ ตนไม่ทราบจริงๆ ก่อนหน้านี้ น้องชายทราบว่าถูกติดตามจากชายแปลกหน้าคนไทย 3 ราย จึงแอบถ่ายภาพไว้ขณะอยู่ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งและบอกเพื่อนๆให้รับทราบ ตนยังบอกให้ระวังตัว แต่เพื่อนเขาเคยเตือนว่าให้ย้ายที่อยู่ ความรู้สึกในขณะนี้ ตนไม่ได้โกรธเคืองใคร เราแค่อยากได้น้องชายเราคืน หรือถ้าไม่คืน ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว มันเป็นเรื่องของความคิดเห็นที่แตกต่าง เหมือนจอดรถแล้วทะเลาะกันยิงกัน ย้อนกลับมาไมได้ ต้องคิดว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไร ทำอะไรได้บ้างกับการเรียกร้องสิทธิ

“หลังเกิดเรื่อง มีคนโทรมาหาเยอะมาก ทั้งที่ไม่รู้จัก ไม่ใช่ญาติ แต่บอกว่าจะช่วยกันตามหา ใช้พลังโซเชียล ช่วยกันเซฟวันเฉลิม ในเหตุการณ์วันนั้นหลังจากติดต่อคนที่ต่างประเทศให้ไปช่วยดูน้องซึ่งตอนนั้นยังคิดว่าเขาเกิดอุบัติเหตุ หลังจากนั้น 20 นาที ได้รับแจ้งว่าน้องถูกอุ้ม ก็มีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ไม่รู้ว่าเขารู้ได้อย่างไร ก็รู้สึกซาบซึ้งจริงๆ ไม่รู้จะพูดคำไหน” นางสาวสิตินันกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image