เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน จากกรณี นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมือง หลังไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่ง คสช. ถูกพาตัวขึ้นรถหายตัวอย่างลึกลับขณะแวะซื้อของหน้าอาคารที่พักในช่วงเย็นของวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา กระทั่งเกิดกระแสติดแฮชแท็ก #savewanchalearm รวมถึงการออกแถลงการณ์ของกลุ่มต่างๆ และการจัดกิจกรรมเรียกร้องความยุติธรรม
นางสาวสิตานัน สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ พี่สาว กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยระบุว่า หากพ้นวันที่ 6 มิถุนายน ครอบครัวจะทำใจ แต่ขณะนี้ทางครอบครัวมีกำลังใจมากขึ้น เพราะเดิมยังไม่มีองค์กรหรือภาครัฐยื่นมือเข้าช่วย แต่ล่าสุดหลายหน่วยงานได้เข้ามาช่วยเหลือ ทำให้มีความหวังมากขึ้น สำหรับการดำเนินการต่อไป เนื่องจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนให้ความช่วยเหลือแล้ว จึงจะทำตามขั้นตอนที่ทางศูนย์ทนายวางแผนงานและให้เป็นไปในทิศทางได้รับคำแนะนำต่อไป เบื้องต้นในวันนี้ได้ไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศ และคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ส่วนจะดำเนินการใดต่อไป จะหารือกับศูนย์ทนายอีกครั้ง นอกจากนี้ นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย ช่วยเหลือในการประสานงานระหว่างประเทศ และกลุ่มเอ็นจีโอที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนที่นายวันเฉลิมเคยร่วมงานในอดีตก็เข้ามาช่วยเหลือด้วย
“ตอนนี้ครอบครัวและเพื่อนๆ หวัง 100 เปอร์เซ็นต์ให้วันเฉลิมกลับมา ยังคงตั้งความหวัง ไม่อยากคิดไปถึงปลายทางว่าจะเป็นอย่างไร ยิ่งตอนนี้ภาครัฐอย่างกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาช่วยแล้ว ยิ่งมีกำลังใจดีขึ้น รู้สึกดีใจจริงๆ ยินดีที่สุดที่เริ่มมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง ก่อนหน้านี้ที่ตั้งไว้ว่า ภายในวันที่ 6 มิถุนายน หากไม่มีความคืบหน้า จะทำใจ เพราะตอนนั้นยังไม่มีสัญญาณจากใคร สำหรับผู้ส่งข่าวที่อยู่ต่างประเทศที่ติดต่อกันเรื่องวันเฉลิมมาโดยตลอด ล่าสุด ยังไม่มีข่าวคราวความคืบหน้าเพิ่มเติม” นางสาวสิตานันกล่าว
นางสาวสิตานันกล่าวว่า ส่วนของการเคลื่อนไหวโดยนักเรียน นิสิต นักศึกษา ตนมองว่าเป็นเรื่องดีที่คนในสังคมไม่นิ่งเฉย แม้แต่ศิลปินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ช่วยกันติดแฮชแท็ก สะท้อนว่าคนต่างมองนายวันเฉลิมเป็นมนุษย์หนึ่งคน ไม่มีสี ไม่มีฝ่าย ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าใครก็ไม่ควรเจอเหตุการณ์แบบนี้ สำหรับกรณีที่มีการลบภาพกราฟฟิตี้ของศิลปินดังหลังพ่นรูปวันเฉลิมไม่ถึง 24 ชั่วโมง รวมถึงป้ายตามหาวันเฉลิมริมถนนเลี่ยงเมืองกาฬสินธุ์ซึ่งถูกยกออกไปนั้น ตนไม่โกรธ เพราะต่างคนต่างความคิด ไม่ได้รู้สึกโกรธแค้น เพราะการมีคนรัก ก็ต้องมีคนเกลียด เป็นเรื่องธรรมดา
“อยากขอบคุณคนที่วาดรูปวันเฉลิม ขอบคุณศิลปิน น้องๆ ที่ทำอินโฟกราฟิกให้วันเฉลิม แม้กระทั่งโปสเตอร์คนหายที่นำไปติดตามสถานที่ต่างๆ ทางครอบครัวขอบคุณมากๆ สิ่งเหล่านี้เป็นกำลังใจที่ดีมากให้มีแรงต่อสู้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ซึ่งเดิมเข้มแข็งมาก แต่ตอนนี้มีความเครียดเพราะตั้งแต่เป็นข่าวมีคนเข้าไปถามเรื่องนี้ตลอด เพราะอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่อุบลฯ รู้จักและเข้าถึงกัน พอเจอหลายๆ คำถามที่ซ้ำๆ ทุกวัน ความเป็นแม่ก็เครียดเป็นธรรมดา แต่ท่านก็ทราบว่ามีคนให้กำลังใจเยอะ ทางครอบครัวทราบทุกคน และดีใจว่านี่ไม่ใช่เรื่องสี เรื่องพรรคการเมือง หรือเรื่องตัวบุคคลว่าใครเกลียดใคร แต่เป็นเรื่องมนุษยธรรมของเพื่อนร่วมโลก” นางสาวสิตานันกล่าว
